Friday, December 12, 2025

The Matrix คุณอาจเป็นแค่ "โปรแกรม" ในคอมพิวเตอร์

The Matrix คุณอาจเป็นแค่ "โปรแกรม" ในคอมพิวเตอร์
จินตนาการถึงเสียงที่คุณคุ้นเคยเสียงเคาะ แป้นพิมพ์ในความมืดเสียงเม็ดฝนดิจิทัลที่ ร่วงหล่นลงมาเป็นสายรหัสสีเขียวบนหน้าจอ สีดำสนิทคุณเคยฝันมั้นีโอฝันที่เหมือน จริงมากๆจนคุณแยกไม่ออกว่าตื่นหรือหลับ อยู่แล้วถ้าคุณไม่สามารถตื่นจากฝันฝัน นั้นได้ล่ะคุณจะแยกความแตกต่างระหว่างโลก แห่งความฝันกับโลกแห่งความจริงได้อย่างไร คำถามนี้ไม่ได้มาจากผมแต่มันคือประโยคที่ มอรฟียสถามนีโอในช่วงเวลาที่เขากำลังจะ เปิดเผยความจริงที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด สารภาพตามตรงว่าครั้งแรกที่ผมได้ยิน ประโยคนี้ในโรงภาพยนตร์เมื่อหลาย 10 ปี ก่อนมันทำให้ผมขนลุกไม่ใช่เพราะความตื่น เต้นของหนังแอคชั่นไซฟแต่เป็นเพราะความ รู้สึกลึกๆบางอย่างในใจที่มันตะโกนตอบ กลับมาว่าเราอาจจะกำลังหลับอยู่จริงๆก็ ได้ลองมองไปรอบตัวคุณตอนนี้ดูสิครับโต๊ะ ที่คุณนั่งเก้าอี้ที่คุณสัมผัสหน้าจอ โทรศัพท์หรือหูฟังที่คุณกำลังใช้อยู่คุณ แน่ใจได้อย่างไรว่าสิ่งเหล่านี้คือความ จริงคุณแน่ใจได้อย่างไรว่าประสาทสัมผัส ของคุณทั้งตาที่เห็นรูปหูที่ได้ยินเสียง จมูกที่ได้กลิ่นลิ้นที่รับรสและกายที่ สัมผัสสิ่งของไม่ใช่แค่สัญญาณการไฟฟ้าที่ ถูกป้อนเข้าสู่สมองของคุณเหมือนกับที่ คอมพิวเตอร์ป้อนข้อมูลเข้าสู่ฮาร์ดฟของ คุณถ้าผมจะบอกคุณว่าสิ่งที่คุณเรียกว่า ชีวิตประจำวันการตื่นนอนการทำงานการกิน ข้าวการมีความรักหรือแม้แต่ความทุกข์ที่ คุณกำลังแบกรับอยู่ตอนนี้อาจจะเป็นเพียง แค่โปรแกรมจำลองสถานการณ์ที่ซับซ้อนเป็น เพียงโค้ดชุดหนึ่งที่รันอยู่บนเซิร์ชวอร์ ขนาดใหญ่ของจักรวาลคุณจะเชื่อผมมั้ยหรือ ถ้าจะพูดให้ท้าทายความรู้สึกยิ่งกว่านั้น ผมค่อนข้างมั่นใจว่าพวกเราส่วนใหญ่ที่ กำลังฟังอยู่นี้ไม่ได้ต่างอะไรจากนีโอใน ช่วงต้นเรื่องเราคือมิสเตอร์มนุษย์เงิน เดือนที่ใช้ชีวิตไปตามระบบระเบียบที่ สังคมกำหนดตื่นเช้ามาก็รีบไปทำงานตกเย็น ก็กลับมานอนวนเวียนอยู่อย่างนี้ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าเหมือนหนูถีบจักรเราทำตามโปรแกรม ที่ถูกเขียนไว้โดยไม่เคยเอะใจเลยว่ากรง ขังที่แท้จริงไม่ได้มีลูกกรง แต่มันคือความคิดและความเชื่อของเราเอง วันนี้เราจะไม่ออกเดินทางไปไหนไกลแต่เรา จะเดินทางเข้าไปข้างในเข้าไปถอดรหัสสิ่ง ที่เรียกว่า the matrix ในมุมมองที่คุณ อาจจะไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อนเราจะ ไม่คุยกันแค่เรื่องหนังแต่เราจะคุยกัน เรื่องความจริงของระบบจิตจักรวาล ในยุคปัจจุบันแนวคิดพิษเรื่อง Simulation Hypothesis หรือสมมุติฐานโลกจำลองกำลัง เป็นที่พูดถึงกันอย่างหนาหูในแวดวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีบุคคลระดับโลก อย่างอีอนมาเคยกล่าวไว้ในการสัมภาษณ์ว่า มีโอกาสเพียง 1 ใน 1 ล้านเท่านั้นที่ความ จริงที่เราอาศัยอยู่นี้คือความจริงพื้น ฐานหรือพูดง่ายๆก็คือเขามั่นใจเกือบจะ 100% ว่าเรากำลังอยู่ในโลกจำลองที่สร้าง ขึ้นโดยอารยธรรมที่ทรงภูมิปัญญาหรือระบบ ซุเปอร์คอมพิวเตอร์บางอย่างนิสstrปรัชญา จากมหาวิทยาลัยออกฟอร์ดได้เสนอทฤษฎีที่ น่าสนใจว่าหากอารยธรรมมนุษย์สามารถพัฒนา ไปถึงจุดที่สร้างคอมพิวเตอร์ที่มีพลัง ประมวลผลมหาศาลได้เราย่อมสามารถสร้างแบบ จำลองบรรพบุรุษหรือ Ancestor Simulation ที่มีรายละเอียดสมจริงจนผู้อยู่ในระบบมี ความรู้สึกนึกคิดมีจิตสำนึกและไม่รู้ตัว เลยว่าตัวเองเป็นเพียงข้อมูลในระบบพอพูด ถึงเรื่องนี้ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าถ้า สมมุติว่าเราอยู่ในโลกจำลองจริงๆและตัว เราเป็นเพียง AI หรืออวทาตัวนึงในเกมนี้ ใครกันแน่ที่เป็นคนถือจอยเกมใครเป็นคนควบ คุมชะตาชีวิตเราหรือจริงๆแล้วอัลกอริมมัน ถูกเขียนมาแบบสุ่มให้เราต้องเจอเรื่องดี บ้างร้ายบ้างโดยไม่มีเหตุผลเรื่องนี้มัน มีหลายมุมมองจริงๆแต่ผมยังหาคำตอบที่ชัด เจนให้ตัวเองในมุมของวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เลยว่าระหว่างการถูกกำหนดมาแล้วหรือการ ที่เรามีอิสระในการเลือกอะไรมันคือความ จริงกันแน่แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือแนวคิด เรื่องโลกเสมือนเหือนนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เลยครับมันไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งถูกคิดค้น ในยุคซิลิคอนวอลเลยyแต่มันคือความจริงที่ ถูกค้นพบมานานกว่า 2,600 ปีแล้วโดย มหาบุรุษท่านหนึ่งที่เราคุ้นเคยกันในนาม พระพุทธเจ้า ในทางพุทธศาสนาเรามีคำว่ามายาและ สังสารวัฏสังสารวัฏไม่ใช่แค่การเวียนว่าย ตายเกิดในเชิงนิทานปรัมปราแต่ถ้าเรามอง ผ่านเลนส์ของ The Matrix สังสารวัฏคือ server ขนาดมหึมาที่ขังดวงจิตของสัตว์ โลกเอาไว้ระบบนี้มีกฎเหล็กมีกลไกการทำงาน ที่ซับซ้อนและรัดกุมยิ่งกว่าโปรแกรม คอมพิวเตอร์ใดๆในโลกมันมีระบบปฏิบัติการ ที่เรียกว่ากรรมเป็นตัวขับเคลื่อนมีตัว แปรหรือ variables นับล้านๆตัวที่ส่งผล ต่อชีวิตเราและที่สำคัญมันมีบัหรือช่อง โหวของระบบที่รอให้ใครสักคนมองเห็นและแฮก มันให้ได้เรามักจะได้ยินคำว่าพุทโธเวลา ที่เราสวดมนต์หรือนั่งสมัคร หลายคนอาจจะเข้าใจว่าพุทโธเป็นเพียงคำ บริกรรมเป็นเพียงคำศักดิ์สิทธิ์ที่เอาไว้ ท่องเพื่อให้ใจสงบแต่ถ้าเราถอดรหัสพุทโธ ลงไปถึงรากศัพท์ถึงสภาวะที่แท้จริงพุทโธ ไม่ใช่ชื่อคนพุทโธไม่ใช่รูปปั้นพุทโธคือ โค้ดเนมของสภาวะจิตที่หลุดออกจากระบบแล้ว พุทโธแปลว่าผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานผู้ รู้คือรู้ความจริงของระบบรู้ว่าโลกนี้คือ มายาภาพรู้ว่าสิ่งที่ตามองเห็นหูได้ยิน คือการปรุงแต่งของจิตไม่ใช่ความจริงแท้ เปรียบเหมือนนีโอที่เริ่มมองเห็นตัวเลข รหัสสีเขียวไหลลงมาแทนที่จะเห็นเป็นภาพ พนังห้องหรือภาพศัตรูผู้ตื่นคือตื่นจาก ความหลับไหลตื่นจากความฝันที่แสนยาวนานใน สังสารวัดตื่นจากอวิชชาหรือความไม่รู้ที่ ปิดตากั้นใจเราไว้มันนวดพบนับชาติเหมือน ตอนที่นีโอตื่นขึ้นมาในแคปซูลแล้วพบความ จริงว่าตัวเองเป็นเพียงถ่านไฟฉายที่ถูก สูบพลังงานและผู้เบิกบานคืออิสรภาพเมื่อ รู้และตื่นแล้วจิตก็เป็นอิสระจาก พันธนาการไม่ถูกโปรแกรมกิเลสครอบงำอีกต่อ ไปเป็นสภาวะที่อยู่เหนือระบบเหนือmatร อย่างสมบูรณ์นี่คือเป้าหมายของการเดินทาง ในครั้งนี้ครับเราไม่ได้จะมาคุยกันแค่ ความบันเทิญแต่เราจะมาสำรวจความเป็นไปได้ ว่าเราทุกคนมีศักยภาพที่จะเป็นนีโอกันทุก คนหรือไม่เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตื่นจาก แคปซูลแห่งความหลงผิดนี้หรือเราจะเลือก กินยาเม็ดสีน้ำเงินแล้วหลับไหลอยู่ในความ ฝันที่แสนหวานต่อไปผมมีประสบการณ์ตรงของ ผมเลยที่เคยเจอช่วงที่ผมเริ่มศึกษาเรื่อง นี้จริงจังใหม่ๆผมเดินไปที่ทำงานมองตึก สูงๆมองผู้คนที่เดินขวักไขวแล้วจู่ๆมันก็ เกิดความรู้สึกวูบนึงขึ้นมาว่าทุกอย่าง นี้มันดูปลอมไปหมดเหมือนฉากละครเหมือนภาพ โฮโลแกรมมันเป็นความรู้สึกที่ทั้งเคว้ง คว้างและน่าตื่นเต้นในเวลาเดียวกันไม่รู้ ว่ามีใครเคยเจอโมเมนต์คล้ายๆกันแบบนี้ บ้างหรือเปล่าที่จู่ๆก็รู้สึกว่าตัวเอง แปลกแยกจากโลกที่กำลังหมุนอยู่ผมได้ออก แบบโครงสร้างไว้อย่างรัดกุมและเป็นขั้น ตอนเพื่อให้คุณค่อยๆทำความเข้าใจกลไกของ จักรวาลและจิตใจโดยผมจะใช้แม่บทที่ยิ่ง ใหญ่ที่สุดในการไขความลับของชีวิตนั่นคือ อริยสัจ 4 มาเป็นแผนที่นำทางในการถอดรหัส The Matrix ทำไมต้องเป็นอริยสัจ 4 เพราะนี่คือ อัลกอิธึมในการแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบที่ สุดเท่าที่เคยมีมาในองค์แรกเราจะพูดถึง ทุกข์และสมุทัยแต่ในบริบทของ The Matrix และ the trap เราจะไปดูกันว่าระบบ ปฏิบัติการของโลกนี้ถูกออกแบบมาอย่างไร ทำไมเราถึงต้องมีความทุกข์ทำไมเราต้องแก่ เจ็บตายทำไมเราถึงไม่สมหวังดั่งใจนี่ไม่ ใช่เรื่องบังเอิญแต่มันคือการออกแบบของ สถาปนิกหรือผู้สร้างระบบเราจะเจาะลึกไป ถึงโครงโครงสร้างของจักรวาล 31 ภพภูมิที่ ไม่ได้มีแค่โลกมนุษย์แต่รวมถึงสวรรค์และ นรกซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ภายใต้ Server เดียวกันที่ชื่อว่ากามภพรูปภพและอรูปภพ เราจะไปดูกันว่าอัลกอริมแห่งกรรมทำงาน อย่างไรทำไมบางคนเกิดมารวยบางคนเกิดมาจน มันคือการสุ่มค่า randomization หรือมัน มีlลogicที่ตายตัวซ่อนอยู่ถ้าให้คุณนึก ถึงคำ 1 คำที่อธิบายสาเหตุที่ทำให้คุณยัง ต้องวนเวียนอยู่กับปัญหาเดิมๆในชีวิต สำหรับผมคือคำว่าความไม่รู้หรืออวิชชาก็ น่าสนใจนะครับว่าแต่ละคนจะนึกถึงคำว่า อะไรลองคิดคำนั้นไว้ในใจดูนะครับแล้วเรา จะมาดูกันว่ามันตรงกับสิ่งที่ระบบวางไว้ หรือเปล่าต่อมาในองค์ที่ 2 เราจะเข้าสู่ สภาวะ Glit in the matrix หรือความ จริงระดับปรมัตถตรงนี้เราจะดำดิ่งลงไปลึก มากลึกกว่าที่ตาเนื้อจะมองเห็นเราจะคุย กันเรื่อง Quantum Physic เรื่องการทดลอง double slid exponent ที่พิสูจน์ว่าผู้สังเกตมีผลต่อสิ่งที่ถูก สังเกตซึ่งมันตรงกับหลักพระอภิธรรมเรื่อง จิตที่ว่าโลกหมุนไปตามจิตเราจะไปไขความ ลับฉากเด็กหัวโล้นงอช้อนว่าทำไมช้อนถึง ไม่มีจริงและทำไมร่างกายของเราตัวตนของ เราในระดับอะตอมในระดับกาปะของรูปธรรมมัน ถึงเป็นเพียงแค่เม็ดฝนดิจิทอลที่เกิดดับ ถี่ยิบจนเรามองไม่ทันผมค่อนข้างมั่นใจว่า แนวคิดเรื่องจิตเกิดดับคือกุญแจสำคัญที่ สุดที่จะทำให้เราเข้าใจ The Matrix อย่างแท้จริงถ้าเราไม่เข้าใจว่าความจริง คือภาพนิ่งที่ฉายต่อเนื่องกันด้วยความ เร็วสูงเราก็จะยังคงหลงคิดว่าหนังชีวิต เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงอยู่ตลอดไปแต่ก็ นั่นแหละครับมันอาจจะเป็นความคิดของผมคน เดียวก็ได้เพราะเรื่องนี้มันละเอียดอ่อน มากและต้องใช้การเพ่งพินิจที่สูงในองค์ ที่ 3 เราจะพูดถึงมรรคหรือ The Path of the เส้นทางของผู้ที่ถูกเลือกซึ่งจริงๆแล้ว ไม่มีใครเลือกเราต้องเลือกตัวเองนี่คือ ขั้นตอนของการกินยาเม็ดสีแดงเราจะพูดถึง วิธีการแฮกระบบจิตใจของตัวเองการเจริญ สติปัฏฐาน 4 การดูกายเวทนาจิตธรรมซึ่ง เปรียบเสมือนการฝึกกังฟูในโปรแกรมฝึกซ้อม เมื่อนีโอเริ่มมองเห็นการเคลื่อนไหวของ เจentSMิช้าลงนั่นคือสภาวะที่จิตเริ่มมี กำลังสมาธิและสติจนเห็นรูปนามแยกออกจาก กันเห็นความไม่เที่ยงเห็นความเป็นอนัตตา บอกตามตรงผมไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมคนถึง ชอบคิดว่าการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องของคน แก่หรือเรื่องน่าเบื่อในขณะที่การปฏิบัติ ธรรมคือการแฮกระบบความเป็นจริงที่เจ๋งที่ สุดและตื่นเต้นที่สุดเท่าที่มนุษย์จะทำ ได้และสุดท้ายองค์ที่ 4 เราจะไปสู่นิโรธ หรือ the exit ทางออกที่แท้จริงฉากสุด ท้ายที่นีโอระเบิดแสงสว่างออกมาหรือสภาวะ ที่จิตหลุดพ้นจากตัณหาหาและอุปาทานอย่าง สิ้นเชิงสภาวะที่เรียกว่านิพพานนิพพานไม่ ใช่สถานที่ไม่ใช่เมืองไซออนแต่คือสภาวะ ที่ระบบสั่งการเราไม่ได้อีกต่อไปเราจะมา สรุปกันว่าเราทุกคนคือนีโอที่กำลังรอวัน ตื่นหรือเราจะยอมเป็นถ่านไฟฉายให้ระบบดูด พลังงานไปจนวันตายนี่คือแผนที่การเดินทาง ของเราในวันนี้ข้อมูลทั้งหมดนี้ผมไม่ได้ คิดเองเออเองแต่ผมรวบรวมมาจากหลักฐานใน พระไตรปิฎกคัมภีร์วิสุทธ พระอภิธรรมปิฎกและนำมาเทียบเคียงจับทฤษฎี ทางวิทยาศาสตร์และปรัชญาภาพยนตร์เพื่อให้ คุณเห็นภาพที่ชัดเจนที่สุดวันนี้ผมเตรียม ข้อมูลมาแน่นมากแต่ผมเชื่อว่าผู้ฟังหลาย ท่านในที่นี้น่าจะมีประสบการณ์หรือมี เกร็ดความรู้หรือการตีความ The Matรxใน มุมของพุทธศาสนาที่ผมเองก็อาจจะไม่รู้ หรือมองข้ามไปถ้าคุณมีมุมมองที่น่าสนใจ เก็บไว้ในใจก่อนหรือจดไว้เลยก็ได้ครับ เพราะเรื่องราวต่อจากนี้มันจะเข้มข้นขึ้น เรื่อยเรื่อยเสียงกระซิบจากจักรวาลกำลัง เรียกหาคุณเหมือนที่ทรินิกระซิบข้างหู นีโอว่าคำตอบอยู่ข้างนอกนั่นนีโอและมัน กำลังตามหาคุณพร้อมจะกินยาเม็ดสีแดงแล้ว ตื่นจากโลกสมมติใบนี้หรือยังถ้าพร้อมแล้ว ขอให้คุณวางทุกอย่างลงปิดการรับรู้จากโลก ภายนอกชั่วคราวเสียงแจ้งเตือนปิดความ วุ่นวายแล้วเปิดใจให้กว้างที่สุดเพราะ สิ่งที่คุณกำลังจะได้ยินต่อไปนี้อาจจะ เปลี่ยนวิธีที่คุณเห็นโลกใบนี้ไปตลอดกาล เริ่มจากคำถามง่ายๆที่สุดและเป็นคำถามที่ ยากที่สุดในวินาทีนี้คุณคือใครคุณคือชื่อ ที่คุณใช้เรียกตัวเองคุณคืออาชีพที่คุณทำ คุณคือร่างกายที่กำลังนั่งฟังอยู่หรือ จริงๆแล้วคุณคือผู้รู้ที่กำลังสังเกตการ สิ่งเหล่านี้อยู่ห่างๆในภาพยนตร์ The Matrix มีตัวละครคนนึงที่ชื่อว่าไซฟอร์ คนที่เลือกจะหักหลังเพื่อนเพื่อแลกกับการ กลับเข้าไปใน matrix เพื่อไปกินสเตกเนื้อ นุ่มๆวนรสเลิศและลืมความจริงที่โหดร้าย ไซเฟอร์พูดประโยคนึงที่น่าเจ็บปวดว่าความ ไม่รู้คือความสุขหรือ Ignorance is bliss ประโยคนี้สะท้อนความจริงของ สังสารวัฏได้อย่างเจ็บแสบที่สุดเพราะตราบ ใดที่เรายังมีอวิชชาหรือความไม่รู้เราก็ จะยังเพลิดเพลินอยู่กับความสุขจรปลอม เพลิดเพลินอยู่กับรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ที่ระบบป้อนให้เรายอมที่จะเป็นธาตุที่มี ความสุขดีกว่าเป็นไทยที่ต้องเผชิญกับความ จริงแต่คำถามคือความสุขนั้นมันจริงแค่ไหน ถ้าสเตกชิ้นนั้นเป็นแค่รหัสข้อมูลที่ส่ง สัญญาณไฟฟ้าไปที่สมองว่าอร่อยแล้วความ อร่อยนั้นมีอยู่จริงหรือเปล่านี่คือกับ ดักที่น่ากลัวที่สุดของ The Matrix ฉบับ ชีวิตจริงเราไม่ได้ถูกขังด้วยกรงเหล็กแต่ เราถูกขังด้วยความพอใจเราถูกขังด้วยตัณหา หรือความทะยานอยากที่ร้อยรัดเราไว้กับ ระบบลองจินตนาการดูนะครับว่าจิตของคุณคือ ซอฟต์แวร์ที่มีความบริสุทธิ์และทรงพลัง มหาศาลแต่ทันทีที่ซอฟต์แวร์นี้เริ่มทำงาน มันกลับติดไวรัสที่ชื่อว่าอวิชชาหรือความ ไม่รู้ไวรัสตัวนี้ทำหน้าที่เดียวคือบิด เบือนการประมวลผลมันทำให้เราเห็นสิ่งที่ ไม่เที่ยงว่าเที่ยงเห็นสิ่งที่เป็นทุกข์ ว่าเป็นสุขและเห็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนว่า เป็นตัวตนของกูนี่คือจุดเริ่มต้นของหายนะ ทั้งหมดนี่คือจุดเริ่มต้นของการถือกำเนิด ขึ้นของมิสเตอร์ในตัวเราทุกคนผมอยากให้ คุณลองสำรวจตัวเองดูเล่นๆว่าในชีวิตที่ ผ่านมามีกี่ครั้งที่คุณตัดสินใจทำอะไรบาง อย่างลงไปเพราะความอยากได้อยากมีอยากเป็น หรือเพราะความโกรธความเกลียดความกลัวแล้ว ผลลัพธ์ที่ตามมามันทำให้คุณมีความสุขจริง ๆหรือมันนำมาซึ่งความทุกข์ระลอกใหม่ที่ หนักกว่าเดิมผมเชื่อว่าถ้าเราซื่อสัตย์ กับตัวเองมากพอเราจะพบคำตอบที่น่าตกใจว่า เราแทบแทบจะไม่ได้เป็นคนควบคุมชีวิตตัว เองเลยแต่เป็นเจ้าไวรัสอวิชชาและตัณหานี่ ต่างหากที่เชิดเราอยู่เหมือนหุ่นกระบอก และสิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือเราหลงรักคน เชิดหุ่นของเราซะด้วยเราปกป้องมันเราหวง แหนมันใครมาแตะต้องตัวกูของกูไม่ได้เรา พร้อมจะสู้ถวายหัวทั้งๆที่ไอ้ตัวกูนี่ แหละคือโปรแกรมที่สร้างความทุกข์ให้เรา มากที่สุดในพระอภิธรรมมีการอธิบายเรื่อง จิตไว้อย่างละเอียดลึกลึกซึ้งชนิดที่ว่า จิตวิทยาตะวันตกยังตามหลังอยู่หลายก้าว พระพุทธองค์ทรงจำแนกจิตออกเป็นดวงเป็นขณะ ท่านบอกว่าจิตเกิดดับรวดเร็วมากยิ่งกว่า การกระพริบตายิ่งกว่าสายฟ้าแลบในชั่วเวลา ดีดนิ้วมือเดียวจิตเกิดดับไปแล้วนับแสน โกรธขณะคุณลองคิดภาพตามนะครับถ้า matrix คือหน้าจอคอมพิวเตอร์ภาพที่คุณเห็นว่ามัน เคลื่อนไหวราบรื่นจริงๆแล้วมันเกิดจากการ ยิงเม็ดสีหรือพิกเซลขึ้นมาทีละเม็ดทีละ เม็ดด้วยความเร็วสูงจนตามองไม่ทันจิตของ เราก็ทำงานแบบนั้นมันรับข้อมูลทางตาแล้ว ดับไปแล้วไปรับข้อมูลทางหูแล้วดับไปสลับ กันไปมาด้วยความเร็วแสงจนเราหลงผิดคิดว่า เราเห็นและได้ยินพร้อมกันตรงนี้แหละครับ คือความลับของมายากลถ้านีโอสามารถหยุด กระสุนได้ก็เพราะเขาเห็นช่องว่างระหว่าง เม็ดสีดิจิตัลเหล่านั้นถ้าผู้ปฏิบัติธรรม สามารถละกิเลสได้ก็เพราะเขาเห็นช่องว่าง ระหว่างการเกิดดับของจิตเขาเห็นว่าความ โกรธไม่ใช่ของเขาแต่มันเป็นแค่กลุ่มก้อน พลังงานหรือโค้ดที่ถูกส่งขึ้นมาประมวลผล แล้วก็ดับไปเขาเห็นว่าความรักความหลงก็ เป็นแค่ข้อมูลชุดหนึ่งที่ผ่านมาและผ่านไป เมื่อเห็นแบบนี้แล้วสภาวะผู้รู้ก็จะตื่น ขึ้นสภาวะที่ไม่ได้เข้าไปอินกับละครไม่ ได้เข้าไปเล่นในเกมแต่ถอยออกมาเป็นผู้ดู ที่เห็นความจริงทั้งหมดนี่คือหัวใจสำคัญ ที่เราจะเจาะลึกกันในวันนี้เราจะไม่คุย กันแค่ทฤษฎีแต่เราจะคุยกันถึงวิธีที่จะ ถอยออกมาเป็นผู้ดูให้ได้จริงๆในชีวิต ประจำวันผมเคยสงสัยว่าทำไมพระพุทธเจ้าถึง ตรัสรู้ในคืนวันเพ็ญทำไมต้องนั่งอยู่ใต้ ต้นโพธิ์ท่านทำอะไรในคืนนั้นท่านไม่ได้ นั่งสวดอ้อนวอนขอพรจากพระเจ้าแต่ท่าน กำลังทำหน้าที่เป็นแฮกเกอร์ระดับจักรวาล ท่านกำลังไล่ดูซอceโค้ชของชีวิตย้อนหลัง ไปนับอนกชาติท่านไล่ดูจนไปเจอต้นตอของ ระบบนั่นคือปฏิจจสมุปบาท ท่านเห็นสายใยแห่งเหตุปัจจัยที่เกี่ยว เนื่องกันเป็นลูกโซ่จากอวิชชาไปสังขารไป วิญญาณไปนามรูปหมุนวนเป็นวงกลมไม่จบสิ้น และวินาทีที่ท่านทำลายวงจรนี้ได้นั่นคือ วินาทีที่matทริกพังทลายลงสำหรับท่าน โลกธาตุหวั่นไหวแสงสว่างจ้าเกิดขึ้นนั่น ไม่ใช่ปาฏิหาริย์แบบเสกเป่าแต่มันคือ ปาฏิหาริย์ของการตื่นรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่ สุดและข่าวดีก็คือพิมพ์เขียวหรือคู่มือใน การแฮกระบบนี้ท่านไม่ได้เอาติดตัวไปด้วย แต่ท่านทิ้งไว้ให้พวกเราทุกคนในรูปแบบของ พระธรรมวินัย คำถามคือเราจะหยิบมันขึ้นมาอ่านหรือเราจะ ปล่อยให้ฝุ่นจับแล้วก้มหน้าก้มตาเล่นเกม เศรษฐีในโลกสมมุตินี้ต่อไปวันนี้ผมไม่ได้ จะมาโน้มน้าวให้คุณเชื่อผมไม่จำเป็นต้อง เชื่อเลยครับพระพุทธเจ้าตรัสเสมอว่าอย่า เพิ่งเชื่อหรือเอหิปัสสิโกแต่จงเข้ามาดู จงเข้ามาพิสูจน์ด้วยตัวเองผมแค่อยากจะ สะกิดให้คุณเอะใจเหมือนที่มอรเฟียสสะกิด นีโอผมแค่อยากจะโยนก้อนหินลงไปในน้ำที่ นิ่งสนิทของคุณให้เกิดแรงกระเพื่อมเพื่อ ให้คุณเริ่มตั้งคำถามกับความจริงตรงหน้า เพราะทันทีที่คุณเริ่มตั้งคำถามกรงขังจะ เริ่มสั่นคลอนและนั่นคือสัญญาณว่าคุณ กำลังจะตื่นเดี๋ยวเราจะพักหายใจกันทุกนิด ในความรู้สึกก่อนที่เราจะก้าวเข้าสู่แอค แรกอย่างเต็มตัวในแอคต่อไปเราจะไปทำความ รู้จักกับสถาปนิกผู้สร้างระบบเราจะไปดู กันให้เห็นกับตาว่ากับดักที่วางไว้ดักเรา นั้นหน้าตามันเป็นยังไงและทำไมเราถึงติด อยู่ในนี้มานานเหลือเกินเตรียมตัวให้ พร้อมนะครับหมุนเก้าอีของคุณมาหาผมจดจอ อยู่ที่เสียงของผมเพราะต่อจากนี้เราจะลง ลึกไปในโพรงกระต่ายและผมรับรองว่าคุณจะ ไม่มองโลกใบเดิมเหมือนเดิมอีกต่อไปคุณเคย สังเกตมว่าทุกเช้าที่คุณตื่นขึ้นมาเสียง นาฬิกาปลุกที่แผ่เสียงดังสนั่นตอน 7:00 น.มันไม่ได้ทำหน้าที่แค่ปลุกให้ร่างกาย คุณตื่นแต่มันกำลังส่งสัญญาณรีเซตระบบ ปฏิบัติการของคุณให้กลับเข้าสูู่ofเดิมๆ อีกครั้งคุณตื่นล้างหน้าแปรงฟันใส่เสื้อ ผ้าชุดเดิมๆเดินทางผ่านเส้นทางเดิมๆเบียด เสียดกับผู้คนหน้าเดิมๆที่ต่างก็มีสีหน้า ว่างเปล่าเหมือนกันเพื่อไปนั่งในคอกสี่ เหลี่ยมทำงานที่คุณอาจจะไม่ได้รักเพื่อรอ เวลาเลิกงานกลับบ้านดูทีวีแล้วก็นอนเพื่อ อะไรเพื่อที่จะตื่นมาทำแบบเดิมซ้ำอีก ครั้งในวันพรุ่งนี้นี่คือชีวิตของโทมัส แอนersonก่อนที่เขาจะเป็นนีโอก่อนที่เขา จะเหาะเหินเดินอากาศหรือหยุดกระสุนได้เขา คือคุณเขาคือผมเขาคือชายหนุ่มธรรมดาที่มี ฉากหน้าเป็นโปรแกรมเมอร์ในบริษัท ซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่เป็นพลเมืองดีที่เสีย ภาษีตรงเวลาช่วยใยแก่ทิ้งขยะแต่ในอีกโลก หนึ่งเขาคือแฮกเกอร์ที่พยายามค้นหาคำตอบ ว่าอะไรคือ matrix แต่สิ่งที่เราจะคุยกัน ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องราวการผจญภัยของเขาแต่ เป็นสภาวะที่เขาเป็นอยู่สภาวะที่เรียกว่า ผู้หลับไหลในทางพุทธศาสนาเราเรียกวงจร ชีวิตที่วนเวียนซ้ำซากนี้ว่าสังสารวัฏ หรือซัราชรูปหลายคนเข้าใจว่าสังสารวัฏคือ เรื่องของการเวียนว่ายตายเกิดข้ามภพข้าม ชาติซึ่งนั่นก็ถูกครับแต่ถ้าเรามองให้ลึก ลงไปในระดับวินาทีสังสารวัฏทำงานอยู่ตลอด เวลาในทุกๆลมหายใจเข้าออกลองจินตนาการดู นะครับว่าชีวิตของคุณเปรียบเสมือนแผ่น เสียงที่ตกร่องหรือไฟลเพลงที่เปิดวนหูบ ซ้ำน้าวซ้ำเหล้าคุณมีความสุขแล้วคุณก็ กลัวความสุขนั้นหายไปพอความสุขหายไปคุณก็ ทุกข์พอทุกข์คุณก็ดิ้นรนหาความสุขใหม่พอ ได้มาคุณก็เบื่อวนอยู่อย่างนี้คำถามที่ น่าสนใจคือทำไมเราไม่ออกไปจากวงจรนี้สัก ทีทำไมโทมัสแอนersันถึงยังคงตื่นมาทำงาน ทุกวันทั้งๆที่ลึกๆในใจเขารู้สึกว่าโลกใบ นี้มันผิดปกติทำไมเราถึงยอมจำนนต่อระบบ ยอมเป็นถ่านไฟฉายให้สังคมสู่พลังงานชีวิต เราไปจนหมดแล้วก็ตายจากไปเงียบๆคำตอบมัน ซ่อนอยู่ในคำๆเดียวครับคำที่เป็นเหมือน รหัสต้นกำเนิดหรือ source coe บรรทัดแรก สุดของโปรแกรมสังสารวัฏคำๆนั้นคืออวิชชา อวิชชาไม่ได้แปลว่าโง่หรือไม่มีความรู้นะ ครับเราอาจจะจบปริญญาเอกเราอาจจะเป็น CEO ระดับโลกเราอาจจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ เก่งกาดแต่เราก็ยังสามารถมีอวิชชาได้เต็ม หัวใจเพราะในความหมายของธรรมะอวิชชาคือ ความไม่แจ้งในความจริงมันคือเครื่องปิด กั้นที่ทรงพลังที่สุดมันทำงานเหมือนกับ แว่นตา VR ที่ถูกสวมครอบจิตวิญญาณของเรา ไว้แน่นหนาจนเราไม่รู้ตัวว่าใส่มันอยู่ อวิชชาทำให้เราเห็นสิ่งที่ไม่เที่ยงว่า มั่นคงถาวรมันหลอกให้เราเห็นสิ่งที่เป็น ทุกข์ว่าคือความสุขและที่ร้ายกาดที่สุด มันหลอกให้เราเห็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนว่า เป็นตัวกูของกูนี่เป็นประสบการณ์ตรงของผม เลยที่เคยเจอสมัยที่ผมยังใช้ชีวิตแบบสุด เหวี่ยงผมเคยคิดว่าการได้ครอบครองสิ่งของ หรูหราการได้รับการยอมรับจากคนอื่นคือ ความสุขสูงสุดผมวิ่งไล่ตามันเหมือนหนูถีบ จักรเหนื่อยแทบตายเพื่อให้ได้มาแต่พอได้ มาแล้วความสุขนั้นมันอยู่กับผมแค่แว๊บ เดียวแล้วมันก็จางหายไปทิ้งไว้แต่ความ ว่างเปล่าและความอยากที่เพิ่มขึ้นผมไม่ รู้ว่ามีใครเคยเจอโมเมนต์คล้ายๆกันแบบนี้ หรือเปล่า ที่รู้สึกว่ายิ่งเติมเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่ เต็มเหมือนมีรูรั่วที่มองไม่เห็นอยู่ในใจ ตลอดเวลารูรั่วนั่นแหละครับคือผลงานของ อวิชชา ในคัมภีร์พุทธศาสนามีทฤษฎีนึงที่อธิบาย กลไกการทำงานของอวิชชาไว้อย่างละเอียดและ น่าทึ่งมากเหมือนกับการกางผังวงจรไฟฟ้า หรือflowชารจของคอมพิวเตอร์ทฤษฎีนั้นชื่อ ว่าปฏิจจสมุปบาท ชื่ออาจจะฟังดูยากและโบราณแต่ความหมายของ มันทันสมัยมากมันแปลแปลว่าธรรมที่อาศัย กันจึงเกิดขึ้นหรือพูดเป็นภาษา คอมพิวเตอร์ก็คือหากมี input A่อมเกิด Process B เพราะพระพุทธองค์ทรงค้นพบว่า เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขารตรง นี้สำคัญมากครับอยากให้ฟังดีๆอวิชชา เปรียบเสมือนโค้ดบรรทัดแรกที่ error เมื่อโค้ดบรรทัดแรกผิดบรรทัดต่อมาที่ชื่อ ว่าสังขารก็ย่อมทำงานผิดพลาดตามไปด้วย สังขารในที่นี้ไม่ได้แปลว่าร่างกายหรือ โรงศพแต่แปลว่าการปรุงแต่งหรือ faabrication มันคือกระบวนการที่จิตของ เราสร้างโลกสมมุติขึ้นมาอวิชชาสั่งให้จิต ปรุงแต่งข้อมูลที่ได้รับตาเห็นรูปอวิชชา สั่งให้ปรุงแต่งว่าสวยหรือน่าเกลียดหูได้ ยินเสียงอวิชชาสั่งให้ปรุงแต่งว่าไพเราะ หรือน่ารำคาญและเจ้าระบบปรุงแต่งหรือ สังขารนี่แหละครับคือตัวสร้าง the matrix ที่แท้จริงโลกที่เราเห็นอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ โลกอย่างที่มันเป็นแต่เป็นโลกที่ถูก render ผ่านของการปรุงแต่งในจิตใจเราเอง เหมือนกับที่โทมัสมองเห็นหน้าจอ คอมพิวเตอร์เป็นตัวหนังสือแต่นีโอมองเห็น เป็นรหัสสีเขียวเราทุกคนต่างก็เป็นโทมัส แดersonที่ถูกอวิชชาปิดตาไว้เราจึงเห็น โลกเป็นของเราเห็นปัญหาเป็นของเราเห็น ความทุกข์เป็นของเราเราหลงคิดว่าเราเป็น ผู้เล่นหรือplayยที่กำลังควบคุมเกมชีวิต แต่ความจริงที่น่าเจ็บปวดคือเราแค่เป็น ตัวละครหรือคาแรคเตอร์ที่ถูกเขียนบทโดย อวิชชาและสังขาร ถ้าให้ผมฟันธงเลยนะผมว่าเราส่วนใหญ่ไม่ ได้ใช้ชีวิตอยู่บนความจริงหรอกครับเราใช้ ชีวิตอยู่บนความเชื่อและความจำที่เราถูก ป้อนมาตั้งแต่เด็กเราถูกโปรแกรมให้เชื่อ ว่าความสำเร็จคือเงินทองความรักคือการ ครอบครองและความมั่นคงคือสิ่งที่มีอยู่ จริงผมค่อนข้างมั่นใจว่านี่คือสาเหตุหลัก ที่ทำให้เราป่วยทางวิญญาณกันทั้งโลกแต่ก็ นั่นแหละครับมันอาจจะเป็นความคิดของผมคน เดียวก็ได้เพราะระบบนี้มันออกแบบมาแนบ เนียนเหลือเกินจนยากที่ใครจะสงสัย >> ลองคิดดูสิครับถ้าวันหนึ่งคุณเดินไปทำงาน แล้วจู่ๆคุณก็เริ่มตั้งคำถามว่าทำไมฉัน ต้องทำแบบนี้ทำไมฉันต้องโกรธเวลาใครด่า ฉันทั้งที่มันเป็นแค่เสียงกระทบหูทำไมฉัน ต้องเสียใจเวลาของหายทั้งที่มันเป็นแค่ สะสารเปลี่ยนที่ทันทีที่คุณตั้งคำถาม เหล่านี้นั่นแปลว่าอวิชชากำลังเริ่มสั่น คลอนนั่นแปลว่าคุณกำลังเริ่มสัมผัสได้ถึง ความจริงที่ซ่อนอยู่หลังม่านมีประโยคนึง ในหนังที่ผมชอบมากมียสบอกกับนีโอว่าคุณ เป็นทาสนีโอเหมือนกับทุกคนคุณเกิดมาใน พันธนาการเกิดมาในคุกที่คุณไม่สามารถดม กลิ่นลิ้มรสหรือสัมผัสได้คุกแห่งจิตใจ ปฏิจจสมุปบาทคือแผนผังของคุกแห่งนี้ครับ มันอธิบายว่าอวิชชาทำให้เกิดสัสังขารการ ปรุงแต่งสังขารทำให้เกิดวิญญาณการรับรู้ วิญญาณทำให้เกิดนามรูปร่างกายและจิตใจ นามรูปทำให้เกิดสฬายตนะตาหูจมูกลิ้นกายใจ ไล่เรียงกันมาเป็นสายโซ่จนกระทั่งเกิด ตัณหาอุปาทานและจบลงที่ทุกข์สังเกตมั้ ครับว่าทุกอย่างมันเป็นกระบวนการ อัตโนมัติมันรันไปตามอกริ แล้วตัวเราอยู่ตรงไหนเจตจำนงเสรีหรือฟรี ของเราอยู่ตรงไหนนี่เป็นเรื่องที่น่าคบ คิดมากครับพอพูดถึงเรื่องนี้ผมก็อดสงสัย ไม่ได้ว่าถ้าเราทุกคนเป็นแค่ผลลัพธ์ของ กระบวนการปฏิจจสมุปบาทจริงๆแล้วเรามี สิทธิ์ที่จะเลือกอะไรได้จริงๆหรือเปล่า หรือว่าการที่เราเลือกจะฟังพcสนี้เลือกจะ กินกาแฟแก้วนี้มันก็เป็นแค่ผลลัพธ์ของ เหตุปัจจัยในอดีตที่ส่งผลมาถึงปัจจุบัน เรื่องนี้มันก็มีหลายมุมมองจริงๆแต่ผมยัง หาคำตอบที่ชัดเจนให้ตัวเองในเชิงปรัชญา ไม่ได้เลยว่าระหว่างชะตารม Deterministic กับทางเลือก Choice มันมีน้ำหนักมากกว่า กันในวินาทีนี้แต่สิ่งนึงที่พุทธศาสนายืน ยันคือเรามีทางออกแม้ระบบจะรัดกุมแค่ไหน แต่มันก็มีช่องโหว่หรือกิช่องโหว่นั้น อยู่ที่สติโทมัสแดersันเริ่มเห็นความผิด ปกติเพราะเขาเริ่มสังเกตเขาเริ่มไม่เชื่อ ในสิ่งที่ตาเห็นเขาเริ่มตามหากระต่ายขาว นั่นคือสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นค้นหาความ จริงในชีวิตจริงกระต่ายขาวของคุณคืออะไร อาจจะเป็นความทุกข์ที่บีบคั้นจนทนไม่ไหว อาจจะเป็นความเบื่อหน่ายอย่างรุนแรงต่อ โลกสมมติหรืออาจจะเป็นความสงสัยใคร่รู้ ว่าตายแล้วไปไหนไม่ว่ากระต่ายขาวของคุณ คืออะไรจงตามมันไปครับอย่าปล่อยให้เสียง นาฬิกาปลุกของโลกทุนนิยมกลบเสียงเรียกของ จิตวิญญาณอย่าปล่อยให้อวิชชากล่อมคุณให้ หลับไหลไปอีก 1 ชาติวันนี้ผมเตรียมข้อมูล เรื่องปฏิจจสมุปบาทมาเล่าในมุมมองของ The Matrix ประมาณนี้ครับแต่ผมเชื่อว่าผู้ ฟังหลายท่านในที่นี้น่าจะมีประสบการณ์ หรือมีความรู้ลึกซิงในเรื่องของวงจร ปฏิจจสมุปบาทในมุมที่ละเอียดกว่านี้หรือ อาจจะมีวิธีการเปรียบเทียบที่เห็นภาพชัด กว่านี้ผมเล่าในมุมของคนที่พยายามถอดรหัส แต่ผมอยากรู้จังว่าถ้าในมุมของนักปฏิบัติ ธรรมที่เห็นสภาวะจริงแล้วเขาจะมองเรื่อง ความไม่รู้นี้ยังไงถ้าคุณฟังมาถึงตรงนี้ ลองสำรวจใจตัวเองดูนะครับถ้าให้คุณนึกถึง คำ 1 คำที่อธิบายกรงขังหรือloบที่คุณติด อยู่ในชีวิตจริงตอนนี้สำหรับผมคือคำว่า ความคาดหวัง ความคาดหวังคือโซ่ตรวนที่ล่ามผมไว้กับ อนาคตที่ยังมาไม่ถึงแล้วทำให้ผมลืมอยู่ กับปัจจุบันก็น่าสนใจนะครับว่าแต่ละคนจะ นึกถึงคำว่าอะไรลองนิยามกรงขังของคุณดู เพราะการรู้จักกรงขังคือก้าวแรกของการแหก คุกเราเพิ่งจะเริ่มแกะรอยโค้ดบรรทัดแรก เราเพิ่งเห็นหน้าตาของศัตรูที่ชื่อว่า อวิชชาแต่คำถามต่อมาที่น่ากลัวกว่านั้น คือใครเป็นคนเขียนเขียนโค้ดนี้ใครเป็นคน ออกแบบระบบสังสารวัฏที่โหดร้ายและแยบย่น ขนาดนี้จักรวาลนี้ไม่ได้เกิดมาลอยๆแต่มัน มีโครงสร้างมีลำดับชั้นมีกฎเกณฑ์ที่เข้ม งวดในแอคต่อไปเราจะไปพบกับสถาปนิก The Architect เราจะไปเปิดแผนที่จักรวาล วิทยา 31 ภพภูมิไปดูกันว่านอกจากโลก มนุษย์ที่เราอาศัยอยู่นี้แล้วยังมี Server อื่นๆที่ซ้อนทับอยู่หรือไม่และที่สำคัญ ตัวแปรที่เรียกว่ากรรมมันทำงานกันยังไง กันแน่ทำไมบางคนเกิดมาเป็น agent smิที่ มีอำนาจทำไมบางคนเกิดมาเป็นแค่ถ่านไฟฉาย เตรียมตัวให้ดีนะครับเพราะสิ่งที่คุณ กำลังจะได้ยินต่อไปนี้อาจจะทำให้คุณมอง เพื่อนร่วมงานเจ้านายหรือแม้แต่ขอทานข้าง ถนนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปหากคุณจำฉาก สำคัญในภาค 2 The Matrix Reloaded ได้ มีฉากนึงที่นีโอเดินเข้าไปในห้องสีขาว โพลนผนังรอบด้านเป็นไปด้วยหน้าจอทีวีที่ ฉายภาพปฏิกิริยาของเขาเองนับล้านแบบตรง กลางห้องนั้นมีชายชราสวมชุดสูตรสีเทาท่า ทางสุขุมนุ่มลึกนั่งรออยู่เขาเรียกตัวเอง ว่าสถาปนิกหรือ the architect เขาคือผู้สร้างเขาคือผู้เขียนโค้ดโครง สร้างทั้งหมดของ matrix เขาคือผู้กำหนด ว่าท้องฟ้าต้องเป็นสีฟ้าแรงโน้มถ่วงต้อง มีค่าเท่าไหร่ และมนุษย์ต้องมีความรู้สึกนึกคิดอย่างไร เพื่อให้ระบบนี้สมดุลและดำรงอยู่ได้แต่ใน ความจริงของจักรวาลที่เราอาศัยอยู่นี้ใคร คือสถาปนิกและโครงสร้างของ Server ที่ขัง เราไว้นั้นมันกว้างใหญ่ไพศาลแค่ไหนถ้าเรา คิดว่าโลกใบนี้จักรวาลนี้คือพื้นที่ทั้ง หมดที่มีอยู่ผมต้องบอกว่านั่นเป็นความ เข้าใจที่คับแคบมากครับเปรียบเสมือนเรา เป็นมดที่เดินอยู่บนใบไม้ใบเดียวแล้วคิด ว่าใบไม้นี้คือป่าทั้งป่าในทางพุทธศาสตร์ เชิงลึกและในคัมภีร์โบราณอย่างไตรภูมิพระ ร่วงหรือแม้แต่ในพระอภิธรรมปิฎกได้มีการ กางแผนที่จักรวาลหรือ cosmology เอาไว้ อย่างละเอียดยิ่งกว่าแผนที่ดาวเทียม Google Earth และเมื่อเรานำแผนที่นี้มา ทาบทับกับ concept ของ The Matrix เราจะ พบความจริงที่น่าขนลุกว่า Matrix ไม่ได้ มีแค่ Layer เดียว ระบบปฏิบัติการสังสารวัฏนี้เป็นระบบที่ ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมันไม่ได้มีแค่โลก มนุษย์แต่มันประกอบไปด้วย 31 ภพภูมิหรือ ถ้าจะพูดภาษาคอมพิวเตอร์ก็คือมีถึง 31 Layer หรือ 31 Server ย่อยที่ทำงาน ประสานกันอยู่ภายใต้เครือข่ายเดียวกันลอง จินตนาการถึงตึกรับฟ้าที่มี 31 ชั้นเรา ทุกคนต่างก็วิ่งวุ่นอยู่ในตึกนี้ขึ้นลิฟต ไปบ้างลงบันไดหนีใฝ่บ้างแต่ไม่ว่าจะอยู่ ชั้นไหนเราก็ยังอยู่ในตึกเรายังไม่ได้ออก ไปข้างนอกเรามาดูกันทีละโซนครับเริ่มจาก โซนที่เราคุ้นเคยที่สุดและเป็นโซนที่ วุ่นวายที่สุดนั่นคือกามภพหรือ The Sensual Sphere กามภพเปรียบเสมือน Server ที่Traราฟฟิหนาแน่นที่สุดเพราะ เป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่ยังเสพติด รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสอย่างรุนแรงที่นี่ ไม่ได้มีแค่มนุษย์อย่างพวกเรานะครับแต่ ยังมีชั้นใต้ดินที่เรียกว่าอบายภูมิ นรกอสูรกายสัตว์เดรัจฉานพวกเขาไม่ได้ อยู่ในมิติพิศวง์ที่ไหนไกลแต่พวกเขาอยู่ ในความถี่สัญญาณที่ต่ำกว่าเราเป็นเหมือน โฟลเดอร์ขยะหรือถังรีไซเคิลของระบบที่ ซึ่งข้อมูลที่เต็มไปด้วยไวรัสแห่งความ โกรธความโลภและความหลงถูกส่งไปกักขังและ ทรมานและเหนือหัวเราขึ้นไปก็ยังมีสวรรค์ 6 ชั้นไล่ตั้งแต่จาตุมหาราชิกาไปจนถึง ปรณิมิตตวัสวัตตี ที่นี่เปรียบเหมือนโซน VIP ของเกมผู้เล่น ที่ทำคะแนนความดีมาเยอะหรือสะสมบุญจะได้ รับสิทธิ์อัปเกรดอวตารให้สวยงามมีรัศมีมี ความสุขทิพย์อาหารทิพย์แต่ฟังดีๆนะครับ สวรรค์ก็ยังอยู่ในmatรxครับเทวดาก็ยัง เป็นแค่ user ในระบบนี่คือจุดที่คนส่วน ใหญ่หลงทางเรามักคิดว่าสวรรค์คือเส้นชัย คือนิพพานแต่เปล่าเลยครับสวรรค์คือกรงทอง ครับมันคือกรงที่สวยงามกว่าสะดวกสบายกว่า จนทำให้ผู้ที่เข้าไปอยู่ไม่อยากออกเพลิด เพลินจนลืมวันลืมคืนลืมความเจ็บปวดและที่ น่ากลัวที่สุดคือลืมว่าตัวเองกำลังติด อยู่ในสังสารวัฏ ถ้าให้ผมฟันธงเลยนะผมว่าแนวคิดแบบที่หวัง จะไปเกิดบนสวรรค์เพื่อเสพสุขเป็นกับดัก ที่แนบเนียนที่สุดของสถาปนิกเพราะมันทำ ให้เราวนหลูบกลับมาที่เดิมได้ง่ายที่สุด เพราะหมดบุญก็ต้องร่วงหรือล็อกเวรรค์กลับ มาเป็นมนุษย์หรือตกลงไปในนรกอีกครั้งวน เวียนไม่รู้จบผมค่อนข้างมั่นใจว่าแนวคิด แบบนี้อาจจะขัดใจใครหลายคนนะครับแต่ก็ นั่นแหละครับถ้าเรามองตามหลักความจริงของ ระบบมันไม่มีที่ไหนปลอดภัยจริงๆหรอกครับ ทีนี้ลองขยับขึ้นไปอีกโซนหนึ่งโซนที่สูง กว่ากามภพเรียกว่ารูปภพและอรูปภพที่นี่ คือที่อยู่ของพรหมพรหมคือผู้เล่นระดับสูง ที่ไม่ได้เสพกามคุณแล้วไม่สนใจเรื่อง เซ็ก์ไม่สนใจเรื่องอาหารอร่อยแต่เสพความ สงบของสมาธิหรือฌานสมาบัติ พวกเขาอยู่ใน server ที่มีความละเอียดสูง มากไม่มีร่างกายหยาบๆแบบเราบางชั้นมีแต่ รูปทิพย์บางชั้นมีแต่จิตล้วนๆไม่มีรูป ร่างเลยอรูปพรหมเป็นเหมือนกลุ่นก้อนพลัง งานบริสุทธิ์ที่ลอยค้างอยู่ในระบบอายุไข ของพรหมยาวนานมากครับนานจนพวกเขาเข้าใจ ผิดเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นอมตะนานจนบาง ท่านเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นผู้สร้าง จักรวาลคุ้นๆมั้ครับใน The Matรxสถาปนิก คิดว่าตัวเองควบคุมทุกอย่างได้แต่จริงๆ แล้วเขาก็เป็นแค่โปรแกรมหนึ่งที่ทำหน้า ที่บริหารจัดการท้าวผกาพรหมในพุทธประวัติ ก็เคยเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นผู้สร้างโลก เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดจนกระทั่งพระ พุทธเจ้าต้องเหาะขึ้นไปโปรดเพื่อชี้ให้ เห็นว่าท่านก็ยังไม่เที่ยงท่านก็ยังต้อง จุติคือตายท่านก็ยังอยู่ในกฎของไตรลักษณ์ พอพูดถึงเรื่อง 31 ภพภูมิผมก็อดสงสัยไม่ ได้ว่าถ้าเรามองเห็นมิติซ้อนทัพเหล่านี้ ได้ด้วยตาเปล่าโลกของเราจะมีหน้าตาเป็น ยังไงเราอาจจะเดินทะลุร่างที่กำลังขอ ส่วนบุญอยู่หน้าเซเว่นหรืออาจจะมีเทวดา นั่งฟังพcสนี้อยู่ข้างๆคุณตอนนี้ก็ก็ได้ เรื่องนี้มันก็มีหลายมุมมองจริงๆแต่ผมยัง หาคำตอบที่ชัดเจนให้ตัวเองไม่ได้เลยว่า ทำไมระบบถึงออกแบบมาให้เรามองไม่เห็นพวก เขาทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่นี้หรือว่าการ มองไม่เห็นคือฟีเจอร์หนึ่งที่ทำให้เรายัง คงหลงมัวเมาในความเป็นมนุษย์ได้ง่ายที่ สุดและสิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าโครงสร้าง ของภพภูมิคือกลไกการเดินทางระหว่างภพใน หนัง The Matrix เวลาจะเข้าออกระบบต้องหาตู้โทรศัพท์เพื่อ โทรออกหรือต้องเสียบสายที่หลังคอแต่ใน ระบบสังสารวัฏเราใช้สิ่งที่เรียกว่า จุติจิตและปฏิสนธิจิต ในพระอภิธรรมอธิบายเรื่องนี้ไว้ละเอียด ระดับนาโนวินาที จุติจิตคือจิตดวงสุดท้ายของภพชาตินี้ทัน ทีที่จิตดวงนี้ดับลงไม่มีการรอคอยไม่มี การเดินทางล่องลอยเป็นวิญญาณสัมภเวสีแบบ ในหนังผีนะครับทันทีที่จุติจิตดับ ปฏิสนธิจิตของชาติใหม่จะเกิดขึ้นทันทีแบบ ไร้รอยต่อ seamless transition เหมือน การโอนถ่ายข้อมูล data transfer ที่มี ความเร็วเป็นอนันคุณตายจากความเป็นมนุษย์ ปุ๊บข้อมูลกรรมทั้งหมดของคุณแคมIDโค้ดจะ ถูกดีดผึงส่งไปเกิดเป็นเทวดาหรือสัตว์นรก หรือมนุษย์อีกคนทันทีในชั่วขณะจิตเดียว ไม่มีใครมาพิพากษาคุณยมบาลไม่ได้เป็นคน ตัดสินแต่โค้ดที่คุณเขียนไว้เองนั่นแหละ กรรมเป็นตัวกำหนดว่า server ไหนจะดึงตัว คุณไปถ้าคุณเขียนโค้ดด้วยความโลภกรีดบ่อย ๆคุณก็ match กับ server ของถ้าคุณ เขียนโค้ดด้วยความโกรธheadดบ่อยๆคุณก็ match กับ server ของนุกถ้าคุณเขียนโค้ด ด้วยศีลด้วยทาน code คุณก็ match กับ Server ของสวรรค์ระบบนี้มันยุติธรรม อย่างเลือดเย็นครับมันคือคณิตศาสตร์ บริสุทธิ์ input เท่ากับ output วันนี้ผม เตรียมข้อมูลเรื่องโครงสร้างภพภูมิมาเล่า ให้เห็นภาพรวมแต่ผมเชื่อว่าผู้ฟังหลาย ท่านในที่นี้น่าจะมีประสบการณ์หรือเคยได้ ยินเรื่องเล่าแปลกๆเกี่ยวกับการระลึกชาติ หรือการสัมผัสสิ่งลี้ลับที่อาจจะเป็นหลัก ฐานของการมีอยู่ของlอรเหล่านี้เรื่องนี้ ผมรู้ประมาณนี้ครับแต่ผมมั่นใจว่าต้องมี คนรู้ลึกกว่าผมซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มผู้ฟัง แน่ๆใครที่มีประสบการณ์เฉียดตาย Near Death Experience หรือเคยเห็นอะไรที่ วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้นั่นอาจจะเป็น จังหวะ glitch ที่ทำให้คุณเห็นขอบฟ้าของ server อื่นก็ได้ลองคิดดูสิครับว่ามัน น่ากลัวขนาดไหนเราเวียนว่ายตายเกิดใน 31 ภพภูมินี้มานับครั้งไม่ถ้วนเพราะพุทธชาติ ตรัสว่ากระดูกที่เราเคยทิ้งไว้ในแต่ละ ชาตินำมากองรวมกันจะสูงเข้าภูเขาน้ำตาที่ เราเคยร้องไห้จากการสูญเสียคนรักท่านนำมา รวมกันจะมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 เรา เคยเป็นมาหมดแล้วครับเคยเป็นราชาผู้ยิ่ง ใหญ่เคยเป็นขอทานที่น่าเวทนาเคยเป็นเทวดา ที่มีรัศมีกายสว่างไสวเคยเป็นสุนัขขี้ เรื้อนข้างถนนเคยตกนรกหมกไหม้เราเปลี่ยน บทบาทไปเรื่อยๆเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือเรายังคงเป็น ทาสของระบบเรายังคงเป็นนักโทษที่วิ่ง เปลี่ยนห้องจำไปแล้วดีใจว่าห้องจำใหม่ แอร์เย็นกว่าเดิมถ้าให้ผมนึกถึงคำ 1 คำ ที่อธิบายความรู้สึกของคุณต่อวัฏฏสงสาร หรือการเวียนว่ายตายเกิดนี้สำหรับผมคือคำ ว่าเหนื่อยเหนื่อยที่ต้องเริ่มใหม่ เหนื่อยที่ต้องจำอะไรไม่ได้เหนื่อยที่ ต้องมานั่งเรียนรู้ความเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำ เล่าก็น่าสนใจนะครับว่าแต่ละคนจะนึกถึงคำ ว่าอะไรลองพิมพ์ไว้เตือนใจตัวเองดูครับ และนี่คือเหตุผลที่นีโอต้องตื่นนี่คือ เหตุผลที่พระพุทธเจ้าทรงแสวงหาทางออก เพราะท่านเห็นแล้วว่าใน 31 ชั้นนี้ไม่มี ชั้นไหนที่เป็นอิสรภาพที่แท้จริงแม้แต่ ชั้นพรุมที่สูงที่สุดวันนึงก็ต้องหมดอายุ วันนึง Server ก็ต้องรีตคำถามสำคัญที่ผม อยากจะทิ้งท้ายในอังนี้คือถ้าสวรรค์ก็ไม่ ใช่ทางออกพรหมโลกก็ไม่ใช่คำตอบแล้วประตู หนีไฟอยู่ที่ไหนสถาปนิกซ่อนกุญแจไว้ที่ ไหนหรือจริงๆแล้วกุญแจไม่ได้ถูกซ่อนแต่ มันวางอยู่ตรงหน้าเรามาตลอดเพียงแต่เรา มองไม่เห็นมันเพราะเรามัวแต่มองออกไปข้าง นอกมองไปที่สวรรค์วิมานโดยลืมมองเข้ามา ที่ใจของเราเอง ในแอต่อไปเราจะเลิกมองขึ้นฟ้าเลิกมองลง ดินแต่เราจะเจาะลึกเข้าไปในอัลกอิธึมแห่ง กรรมเราจะไปถอดรหัสว่าทำไมโปรแกรมนี้ถึง ทำงานแม่นยำนักทำไมบางคนทำดีไม่ได้ดีใน ตอนนี้ทำไมบางคนทำชั่วได้ดีมันคือบัหรือ มันคือฟีเจอร์ที่ซับซ้อนกันแน่และเราจะ เริ่มเรียนรู้วิธีการแฮกระบบกรรมนี้ไป ด้วย คุณเคยรู้สึกไหมว่าไม่ว่าคุณจะหนีไปไกล แค่ไหนไม่ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวอยู่ในซอก มุมมืดที่สุดของเมืองหรือพยายามทำตัวให้ กลมกลืนกับฝูงชนเพียงใดลึกๆแล้วคุณรู้ เสมอว่ามีบางสิ่งกำลังตามล่าคุณอยู่ ใน Papon The Matrix เราเรียกสิ่งนั้น ว่า Agent Smith ชายใส่สูตรดำสวมแว่นตา ดำที่มีใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์และกัดไม่ ปล่อยเขาไม่ใช่คนแต่เขาคือโปรแกรมรักษา ความปลอดภัยของระบบเขาทำหน้าที่เพียง อย่างเดียวคือกำจัดสิ่งที่ผิดแปลกและ รักษาเสถรภาพของmatทrixแต่ในชีวิตจริง สิ่งที่ตามล่าเราไม่ได้ใส่สูตรไม่ได้สวม แว่นดำและไม่ได้มีหน้าตาเป็น Hugo Wiving สิ่งที่ตามล่าเราคือเงาของการกระทำที่เรา เคยทำไว้เงาที่ในทางพุทธศาสนาเรียกว่า วิบากกรรม เรามักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำว่ากรรมคน ส่วนใหญ่มองว่ากรรมคือระบบตุลาการคือการ ลงโทษจากฟากฟ้าคือยมบาลที่นั่งจดบันทึก ความดีความชั่วในสมุดหนังหมาแล้วคอย พิพากษาเราแต่ถ้าเรามองผ่านเลนส์ของ The Matrix กรรมไม่ใช่ผู้พิพากษาครับกรรมคือ Algorอิกรรมคือโค้ดคอมพิวเตอร์ที่รัน อย่างเที่ยงตรงที่สุดในจักรวาล Input เท่ากับ output คุณป้อนข้อมูลอะไรลงไปใน ระบบก็จะประมวลผลออกมาเป็นสิ่งนั้นไม่มี ความเมตตาไม่มีความโกรธแค้นมีแต่ตรรกะ ล้วนๆถ้าคุณเขียนโค้ดสั่งให้โปรแกรมแสดง ผลเป็นสีแดงมันก็จะเป็นสีแดงมันจะเป็นสี เขียวไปไม่ได้นี่คือกฎแห่งกรรมในระดับ ปรมัตถอ พูดถึงเรื่องนี้ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าถ้า เรามองเห็นเส้นสายของกรรมที่โยงใยกันยุ่ง เหยืองเหมือนสายไฟหลังเคสคอมพิวเตอร์เรา จะยังกล้าทำสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้มย ถ้าเรารู้ว่าทุกการคลิกเมาสเคาะแป้นพิมพ์ ทางความคิดของเรามันกำลังเขียนscptชฉาก ต่อไปของชีวิตเราแบบเร time เรื่องนี้มัน ก็มีหลายมุมอองจริงๆแต่ผมยังหาคำตอบที่ ชัดเจนให้ตัวเองไม่ได้เลยว่าระหว่างความ กลัวผลลัพธ์กับความเข้าใจกลไกอะไรคือแรง จูงใจให้คนทำดีที่ยั่งยืนกว่ากัน ลองมองดูความเหลื่อมล้ำในโลกใบนี้สิครับ ทำไมบางคนเกิดมาบนกองเงินกองทองทั้งที่ ยังไม่ได้ทำอะไรเลยทำไมบางคนเกิดมาพิการ ทั้งที่ยังไม่ทำได้ลืมตาดูโลกทำไมบางคน กินเหล้าเมายาทุกวันแต่อายุยืนในขณะที่ บางคนดูแลสุขภาพแทบตายกลับเป็นมะเร็งถ้า เราใช้ตรรกะแบบมนุษย์ทั่วไปเราจะบอกว่า โลกนี้มันไม่ยุติธรรมเราจะโทษโชคชะตาโทษ พระเจ้าหรือโทษความซวยแต่ในสายตาของ สถาปนิกหรือในมุมมองของกฎแห่งกรรมไม่มีคำ ว่าบังเอิญและไม่มีคำว่าสวยทุกอย่างคือผล ลัพธ์ของการรันโค้ดที่ถูกเขียนไว้ก่อน หน้านี้ทั้งสิ้นเพียงแต่ตัวแปรหรือ variables ที่ถูกเขียนไว้นั้นมันอาจจะ ถูกเขียนไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้วหรือ 100 ชาติที่แล้วซึ่งเราจำไม่ได้นี่เป็น ประสบการณ์ตรงของผมเลยที่เคยเจอสมัยก่อน ผมมักจะน้อยใจว่าทำไมชีวิตเราถึงมี อุปสรรคเยอะจังทำไมเพื่อนรุ่นเดียวกันเขา ไปได้ไกลกว่าผมเคยโทษเศรษฐกิจโทษรัฐบาล โทษพ่อแม่แต่พอผมเริ่มศึกษาเรื่อง อัลกอิธึมแห่งกรรมอย่างจริงจังผมถึงบาง อ้อเลยครับว่าผมเองนี่แหละคือแฮกเกอร์ที่ แอบไปเขียนโค้ดบั๊กๆเอาไว้ในระบบของตัว เองโดยไม่รู้ตัวไม่รู้ว่ามีใครเคยเจอ โมเมนต์คล้ายๆกันแบบนี้บ้างหรือเปล่าที่ พอเลิกโทษคนอื่นแล้วหันมามองการกระทำของ ตัวเองในอดีตจิ๊กซอทุกชิ้นมันต่อกันติดพอ ดีเป๊สอย่างน่าขนลุกเพื่อให้เห็นภาพชัด เจนผมจะพาคุณไปถอดรหัสออceคที่สำคัญที่ สุดชุดหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงเปิดเผยไว้ ในจูลกรมวิถังคสูตร สูตรนี้เปรียบเสมือนเอกสารทางเทคนิคหรือ technical documentation ที่อธิบายว่า ตัวแปรไหนส่งผลให้เกิดผลลัพธ์อะไรมาเริ่ม ที่ตัวแปรแรกเรื่องของอายุไขทำไมบางคนตาย เร็วบางคนตายช้าระบบไม่ได้สุ่มนะครับพระ พุทธองค์ตรัสว่าคนที่มักทำปาณาติบาตคือ การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเบียดเบียนชีวิตอื่น ชอบทำให้ระบบชีวภาพของคนอื่นหยุดทำงาน input คือการตัดรอนชีวิต output คือการ มีอายุสั้นมันคือตรรกะง่ายๆว่าถ้าคุณส่ง คลื่นพลังงานแห่งการทำลายล้างออกไปคลื่น นั้นจะสะท้อนกลับมาที่ฮาร์ดแวร์หรือร่าง กายของคุณเองทำให้ฮาร์ดแวร์ของคุณเสื่อม สภาพเร็วกว่ากำหนดหรือพังเสียหายกะทันหัน ตัวแปรต่อมาเรื่องของผิวพรรณและหน้าตา ทำไมบางคนเกิดมาสวยหล่อมีออร่าดึงดูดใน ขณะที่บางคนตรงกันข้ามโค้ดที่ควบคุมตัว แปรนี้คือความโกรธคนที่มีความมักโกรธ พยาบาทหงุดหงิดง่ายหน้าบึ้งตึงเป็นนิดจิต ใจที่เร่าร้อนด้วยไฟโทสะมันเหมือนกาดจอ ที่ทำงานหนักเกินไปจนไหม้โอวatพลังงาน ความร้อนนี้มันไปเผาผลาญเซลล์ไปบิดเบือน โครงสร้างของรูปกายเมื่อรีสปอหรือเกิด ใหม่ในชาติหน้าระบบจึง generate อวตารที่ มีผิวพรรณทรามหน้าตาบูดเบี้ยวตามร่องรอย ของจิตที่เคยบิดเบี้ยวมาก่อนในทางตรงกัน ข้ามคนที่ไม่มักโกรธมีเมตตาจิตใจที่เย็น ฉ่ำสบายใจย่อมส่งผลให้รูปกายที่ถูกสร้าง ขึ้นใหม่มีความผ่องใสสวยงามถ้าให้ผมฟันธง เลยนะผมว่าศัลยกรรมที่ดีที่สุดไม่ใช่หมอ เกาหลีครับแต่คือการศัลยกรรมจิตใจด้วย ความเมตตาผมค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าคุณรักษา ใจไม่ให้โกรธได้ต่อเนื่องรัศมีของคุณจะ เปลี่ยนไปจนคนรอบข้างตั้งทักแต่ก็นั่น แหละครับมันทำยากกว่าจ่ายเงินให้หมอเยอะ เลย ตัวแปรที่ 3 เรื่องของอำนาจและศักดิ์ศรี บางคนเกิดมาต่ำต้อยเป็นลูกน้องเขาตลอด ชาติพูดอะไรไม่มีใครฟังแต่บางคนเกิดมามี ยศศักดิ์พูดคำเดียวคนฟังทั้งเมืองบัของ เรื่องนี้อยู่ที่ความริษยาคนที่เห็นคน อื่นได้ดีแล้วทนไม่ได้อิจฉาตาร้อนอยากจะ ขัดขาเค้าจิตที่มีความริษยาคือจิตที่ไม่ ยอมรับความดีของผู้อื่นเมื่อคุณปฏิเสธ ความดีระบบจึงปฏิเสธที่จะมอบตำแหน่งที่ดี ให้คุณผลลัพธ์คือคุณจะกลายเป็นคนที่มี ศักิ์ต่ำไร้อำนาจส่วนคนที่ไม่อิจฉาแต่ แสดงมุทิตาจิตคือยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี นี่คือการ approve ความดีระบบจึงมอบ เครดิตให้คุณได้เลื่อนขั้นไปสู่ตำแหน่ง ที่สูงส่งตัวแปรที่ 4 เรื่องของทรัพย์สิน เงินทองอันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนอยาก รู้ที่สุดว่าสูตรโกงเงินในเมทริกคืออะไร พระพุทธองค์ตรัสชัดเจนครับว่าความตระหนี่ คือโค้ดแห่งความยากจนการหวงแหนทรัพย์การ ไม่รู้จักให้ทานการไม่รู้จักแบ่งปันมัน คือการบล็อกการไหลเวียนของพลังงานเมื่อ คุณปิดกั้นทางออกคุณก็ปิดกั้นทางเข้าด้วย เช่นกันคนที่ให้ทานคือคนที่เปิด flow ของ ระบบยิ่งให้ยิ่งไหลมาเทมาไม่ใช่เรื่อง ปาฏิหาริย์นะครับแต่เป็นเรื่องของ พลศาสตร์แห่งกรรมวันนี้ผมเตรียมข้อมูล เรื่องจูลกรมวิภังคสูตร มาเล่าเป็นตัวอย่างหลักๆประมาณนี้ครับแต่ ผมเชื่อว่าผู้ฟังหลายท่านในที่นี้น่าจะมี ประสบการณ์หรือมีความรู้เกี่ยวกับกฎแห่ง กรรมข้ออื่นๆที่น่าสนใจเช่นเรื่องปัญญา เรื่องสุขภาพหรือเรื่องคู่ชองที่ผมเองก็ อาจจะตกหล่นไปเรื่องนี้ผมรู้ประมาณนี้ ครับแต่ผมมั่นใจว่าต้องมีคนรู้ลึกกว่าผม และอาจจะเคยเห็นความเชื่อมโยงของกรรมใน รูปแบบที่ซับซ้อนกว่านี้ซ่อนตัวอยู่ใน กลุ่มผู้ฟังแน่ถ้าคุณมีทฤษฎีหรือ ประสบการณ์ที่พิสูจน์อัลกริทมนี้ได้ผม อยากให้คุณลองแชร์มุมมองของคุณเพื่อเป็น วิทยาทานแก่เพื่อนร่วมวัฏฏสงสาร ทีนี้ปัญหาที่ทำให้เราสับสนและทำให้เรา ไม่เชื่อในระบบนี้คือสิ่งที่เรียกว่า latency หรือความหน่วงของเวลาใน คอมพิวเตอร์เวลาเรากดปุ่มบางทีมันอาจจะ หน่วงไปเสี้ยววินาทีแต่ในระบบกรรมความ หน่วงนี้อาจกินเวลาเป็น 10 ปีหรือข้ามภพ ข้ามชาติเราเห็นคนโกงกินร่ำรวยเราเลยคิด ว่าทำชั่วได้ดีแต่จริงๆแล้วเขากำลังใช้ บุญเก่าหรือโครITที่เขาเคยสะสมมาในอดีต ต่างหากล่ะเหมือนเขามีเงินในบัญชีเยอะเขา ก็เลยรูดบัตรเครดิตใช้ชีวิตหรูหราได้แม้ ว่าปัจจุบันเขาจะไม่ทำงานทำการเลยก็ตาม แต่ทันทีที่วงเงินหมดหายนะจะมาเยือนแบบ ที่เขาตั้งตัวไม่ทันเอเยนsmิไม่เคยรีบ ร้อนครับเขาเดินตามเราไปเรื่อยๆช้าๆแต่ มั่นมั่นคงเขาจะรอจังหวะที่เหตุปัจจัย พร้อมแล้วเขาก็จะยื่นซองขาวให้เราทันที บอกตามตรงผมไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมคนถึง ชอบคิดว่าทำดีแล้วไม่ได้ดีในขณะที่ความ จริงคือเราแค่ใจร้อนเกินไปที่จะรอดูผล ลัพธ์เราปลูกต้นมะม่วงวันนี้พรุ่งนี้เรา จะเอามะม่วงเลยมันเป็นไปไม่ได้ครับ ธรรมชาติมีจังหวะเวลาของมันระบบกรรมก็ เช่นกันถ้าคุณเข้าใจเรื่องอัลกอริธึมแห่ง กรรมนี้อย่างถ่องแท้คุณจะเลิกน้อยใจโชค ชะตาคุณจะเลิกอิจฉาคนอื่นและที่สำคัญที่ สุดคุณจะเลิกกลัวagเจent smit เพราะคุณจะ รู้ว่าวิธีเดียวที่จะทำให้เอเจนเลิกตาม ล่าคุณไม่ใช่การหนีไม่ใช่การต่อสู้ด้วย กำลังแต่คือการหยุดสร้างรหัสข้อมูลขยะ เพิ่มเข้าไปในระบบนีโอในตอนจบภาคแรกเขา ไม่ได้ชนะสมิธด้วยการต่อยตีแต่เขาชนะด้วย การเข้าไปข้างในแล้วเขียนโค้ดทับลงไปใหม่ เขาเปลี่ยนตัวเองจากเหยื่อให้กลายเป็นผู้ รู้เมื่อเขารู้ความจริงagเจentsmิก็ทำ อะไรเขาไม่ได้อีกต่อไปถึงตรงนี้ผมอยากจะ ชวนคุณทำภารกิจคำเดียวถ้าให้คุณนึกถึงคำ 1 คำที่คุณอยากจะเขียนลงไปในsอce coe ชีวิต ของคุณตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปคุณอยาก จะใส่ตัวแปรตัวไหนลงไปให้เข้มข้นที่สุด สำหรับผมคือคำว่าสติเพราะผมเชื่อว่าสติ คือแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดที่ป้องกันไม่ ให้ผมเขียนโค้ดผิดพลาดก็น่าสนใจนะครับว่า แต่ละคนจะนึกถึงคำว่าอะไรลองเลือก คีย์เวิร์ดของคุณแล้วฝังมันลงไปในจิตใต้ สำนึกดูครับแต่เดี๋ยวก่อนแม้ว่าเราจะเข้า ใจระบบกรรมเราจะรู้ว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ ชั่วแต่นั่นก็ยังไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง การทำดีก็แค่เปลี่ยนจากคุกสกปรกให้กลาย เป็นคุกระดับ 5 ดาวการไปเกิดบนสวรรค์ก็ แค่การย้ายห้องขังไปอยู่ชั้นบนสุดเราก็ ยังอยู่ในmatทริกอยู่ดีคำถามคือแล้วเราจะ ออกจากระบบนี้ได้ยังไงเราจะทำลายกำแพง กั้นระหว่างโลกสมมุติกับความจริงได้ยังไง ในแอต่อไปเราจะเข้าสู่เนื้อหาที่ลึกซึ้ง ที่สุดยากที่สุดแต่ก็น่าตื่นเต้นที่สุด นั่นคือองค์ที่ 2 Glitch in the matrix เราจะไปคุยกันเรื่องช้อนนั้นไม่ มีจริงเราจะไปคุยกันเรื่อง Quantum Physic ที่พิสูจน์ว่าโลกนี้ว่างเปล่า แล้วเราจะไปดูว่าในเสี้ยววินาทีที่จิตของ เราเกิดดับนั้นมันมีช่องว่างเล็กๆที่เรา สามารถลอดผ่านออกไปสู่อิสรภาพได้เตรียม ตัวให้พร้อมนะครับเพราะเนื้อหาต่อจากนี้ จะสั่นคลอนความเชื่อเรื่องตัวตนของคุณจน คุณอาจจะเริ่มสงสัยว่ามือที่คุณมองเห็น อยู่ตอนนี้มันมีอยู่จริงหรือเปล่า เราเดินทางกันมาลึกพอสมควรแล้วจากโลกภาย นอกที่วุ่นวายจากระบบกรรมที่รัดกุ่มตอน นี้เรามายืนอยู่หน้าประตูบานหนึ่งประตู ที่เมื่อเปิดออกไปแล้วคุณจะไม่มีวันมอง โลกใบเดิมด้วยสายตาคู่เดิมได้อีกต่อไปใน วงการคอมพิวเตอร์เรามีคำศัพท์คำนึงที่ เรียกว่า Glitch มันคือความผิดพลาดของ ระบบอาการกระตุกภาพซ้อนหรือจังหวะที่ โปรแกรมประมวลผลไม่ทันจนทำให้เราเห็นโค้ด ที่ซ่อนอยู่ข้างหลังในหนัง The Matrix นีโอเห็นแมวดำเดินผ่านไปแล้ววินาทีต่อมา แมวตัวเดิมก็เดินผ่านไปในท่าทางเดิมเป๊ะ นั่นคือสัญญาณว่าพวกเขากำลังแก้ไขระบบแต่ ในโลกแห่งความจริง GLD ไม่ใช่แมวเดินผ่าน ครับ GL คือชั่วขณะที่สติของคุณคมชัดถึง ขีดสุดจนโลกที่ดูเหมือนแน่นหนาถาวรนี้พัง ทลายลงต่อหน้าต่อตา คุณจำฉากที่ทรงพลังที่สุดฉากนึงในภาคแรก ได้ไหมครับฉากที่นีโอไปหาเทพพยากรณ์หรือ The Oracle ในห้องนั่งเล่นเขาเจอเด็ด หัวโล้นใส่ชุดเหมือนพระสงฆ์กำลังเพ่งช้อน โลหะอยู่แล้วช้อนนั้นก็ค่อยๆงอลงเหมือนทำ จากยางนีโอหยิบช้อนขึ้นมาดูพยายามจะเพ่ง ให้มันงอบ้างแต่เด็กคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดประโยคที่กลายเป็นลำนาญว่าอย่า พยายามงอช้อน เพราะนั่นเป็นไปไม่ได้แต่จงระนักรู้ความ จริงเพียงข้อเดียวว่าช้อนนั้นไม่มีจริง is no spoon ช้อนนั้นไม่มีจริงฟังดู เหมือนปริศนาเซ็นหรือคำคมเท่ๆใช่ไหมครับ แต่ถ้าเราถอดรหัสประโยคนี้ด้วยกุญแจของ พระอภิธรรมและquอนum physic คุณจะพบว่า นี่ไม่ใช่คำคมแต่มันคือความจริงระดับ ปรมัตถที่น่าขนลุกที่สุดลองหยิบวัตถุใกล้ ตัวคุณขึ้นมาสักชิ้นสิครับแก้วน้ำปากกา หรือโทรศัพท์มือถือที่คุณถืออยู่คุณเห็น มันเป็นของแข็งใช่มั้ยคุณสัมผัสได้ถึงน้ำ หนักความเย็นความเรียบเนียนคุณเรียกมัน ว่าโทรศัพท์แต่ผมขอบอกคุณตรงนี้เลยว่า โทรศัพท์ที่คุณถืออยู่ไม่มีจริงสิ่งที่ คุณเรียกว่าโทรศัพท์ในทางพุทธศาสนาเรียก ว่าสมมุติสัจจะหรือบัญญัติมันคือชื่อ เรียกที่มนุษย์ตกลงกันตั้งขึ้นมาเพื่อใช้ สื่อสารใน matrix มันคือไอคอนบนหน้าจอ คอมพิวเตอร์ที่เราคลิกเพื่อใช้งานแต่ตัว ตนจริงๆของมันไม่ใช่ไอคอนนั้นถ้าเราเอา โทรศัพท์เครื่องนี้มาส่องด้วยกล้อง จุลทัศน์ที่มีกำลังขยายพันล้านเท่ามองไม่ เห็นคำว่าโทรศัพท์เราจะเห็นแผงวงจร พลาสติกกระจกซูมเข้าไปอีกเราจะเห็น โมเลกุลซูมเข้าไปอีกเราจะเห็นอะตอมซูม เข้าไปที่นิวเคลียสของอะตอมคุณจะเจออะไร ครับนักฟิสิกส์quวตัมบอกเราว่าอะตอม ประกอบด้วยที่ว่างถึง 99.99% 99% สิ่ง ที่เหลืออยู่คืออนุภาคพลังงานเล็กๆที่ วิ่งวนด้วยความเร็วสูงจนเกิดเป็นภาพลวงตา ของความแข็งเหมือนใบพัดลมที่หมุนเร็วๆจน เราเห็นเป็นแผ่นคึบทั้งที่จริงๆแล้วมันมี ช่องว่างเต็มไปหมดถ้าผมให้คุณเอานิ้วจิ้ม ลงไปที่โต๊ะนิ้วของคุณไม่ได้สัมผัสโต๊ะ จริงๆนะครับแต่แรงผลักของประจุไฟฟ้าลบที่ ปลายนิ้วคุณกับประจุไฟฟ้าลบของโต๊ะมัน ผลักกันอยู่คุณจึงรู้สึกถึงแรงต้านและ สมองคุณก็แปลค่าแรงต้านนั้นว่าความแข็ง เห็นมั้ครับสัมผัสก็เป็นแค่สัญญาณไฟฟ้า รูปทรงก็เป็นแค่การรวมตัวของพลังงานแล้ว ช้อนหรือโทรศัพท์อยู่ที่ไหนมันไม่มีอยู่ จริงในระดับปรมัตถนี่คือสิ่งที่เด็กคน นั้นพยายามบอกนีโอและเป็นสิ่งที่พระ พุทธเจ้าพยายามบอกเราในทางธรรมเราเรียก สภาวะนี้ว่าปรมัตถสัจจะ ความจริงแท้ที่มีอยู่จริงโดยไม่ต้องอาศัย การสมมติถ้าเราลอกสติ๊กเกอร์ที่แปะว่า ช้อนออกสิ่งที่เราจะเจอคือธาตุ 4 ปัทวีธาตุคือสภาวะแข็งหรืออ่อนอาโปธาตุ คือสภาวะเกาะกุมหรือไหลเปโชธาตุคือสภาวะ ร้อนหรือเย็นวาโยธาตุคือสภาวะตึงหรือไหว ช้อนคือก้อนพลังงานของธาตุ 4 ที่มารวมตัว กันชั่วคราวตามเหตุปัจจัยเมื่อธาตุไฟเข้า แทรกความร้อนธาตุดินก็คลายตัวคือละลายรูป ทรงก็เปลี่ยนไปดังนั้นช้อนจึงเป็นแค่ภาพ มายาเป็นแค่กราฟฟิก 3D ที่ถูกrendนขึ้นมา ในจิตของเราถ้าให้ผมฟันธงเลยนะผมว่าพวก เราใช้ชีวิตอยู่กับป้ายชื่อมากกว่าความ จริงเราหลงรักป้ายชื่อเราเกลียดป้ายชื่อ เราโกรธคนที่ด่าเราว่าโง่ทั้งที่คำว่าโง่ เป็นแค่เคลื่อนเสียงคือธาตุลมที่มากระทบ หู แต่เราไปปรุงแต่งไปแปะป้ายให้มันว่าคำด่า เราถึงเจ็บผมค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าเราถอด รหัสความจริงระดับปรมัตถนี้ได้เราจะเลิก โกรธเลิกเกลียดเลิกโลภไปได้เกินครึ่งแต่ ก็นั่นแหละครับการจะมองให้ทะลุป้ายชื่อ มันต้องใช้กำลังของสติที่มหาศาลมากลองมา ดูหลักฐานชิ้นสำคัญที่พระพุทธองค์ทรง เปรียบเทียบไว้อย่างเห็นภาพในพระสูตรที่ ชื่อว่าเพนะปิณธุโปมสูตร ชื่ออาจจะจำยากแต่เนื้อหาจำง่ายและกระแทก ใจมากครับพระองค์เปรียบเทียบรูปคือร่าง กายและวัตถุทั้งหลายเหมือนกับกลุ่มฟองน้ำ ในแม่น้ำคงคาเวลาฝนตกหนักน้ำไหลหลากเราจะ เห็นฟองน้ำเป็นก้อนๆลอยมาดูใหญ่โตแต่พอ เราเอามือไปจับหรือเอาไม้อะไรไปจิ้มมัน ว่างเปล่ามันไม่มีแก่นสารมันยุบตัวลงทัน ทีร่างกายของเราก็เหมือนกันครับดูภายนอก สวยงามหล่อเหลาแข็งแรงแต่พอลอกหนังออกลอก เนื้อออกเจาะเข้าไปดูจริงๆมีแต่ของเหลวมี แต่โพรงมีแต่อวัยวะที่ทำงานยุกยิกและลึก ลงไปก็คือธาตุ 4 ที่แปรปรวนตลอดเวลาไม่ ใช่ตัวเราเลยส่วนวิญญาณคือการรับรู้พระ องค์เปรียบเหมือนนักเล่นกลมายากลคือสิ่ง ที่ดูเหมือนจริงแต่ไม่ใช่ของจริงวิญญาณ หลอกเราว่ามีคนอยู่ในกระจกเงา หลอกเราว่ามีเสียงเพลงที่ไพเราะทั้งที่ จริงมีแค่การสั่นสะเทือนของอากาศนี่เป็น ประสบการณ์ตรงของผมเลยที่เคยเจอช่วงที่ผม นั่งสมาธิแล้วจิตเริ่มสงบมากๆผมเคยลอง เพ่งมองไปที่มือของตัวเองจู่ๆความรู้สึก ว่านี่คือมือมันหายไปครับมันเหลือแต่ความ รู้สึกยิบๆแยบๆเป็นคลื่นพลังงานที่เต้น ตุบๆอยู่ในความว่างเปล่าวินาทีนั้นความ กลัวตายมันหายไปเลยเพราะมันรู้สึกว่าอ้า อ้าวมันไม่มีอะไรให้ตายนี่หว่าเพราะมัน ไม่มีตัวมืออยู่จริงๆตั้งแต่แรกไม่รู้ว่า มีใครเคยเจอโมเมนต์ที่อวัยวะหายไปหรือตัว ตนละลายหายไปแบบนี้บ้างหรือเปล่ามันเป็น ความรู้สึกที่อิสระอย่างบอกไม่ถูกกลับมา ที่ฉากงอช้อนครับเด็กคนนั้นบอกว่าไม่ใช่ ช้อนที่งอแต่ตัวคุณต่างหากที่งอ Then you will see that it is not the spoon that bends it is only yourself ในทางนี่คือหัวใจของการปฏิบัติ วิปัสสนาเราไม่สามารถไปแก้ไขโลกภายนอกได้ เราไม่สามารถสั่งให้แดดหยุดร้อนคือธาตุไฟ เราไม่สามารถสั่งให้คนหยุดนินทาคือธาตุลม เพราะนั่นคือการทำงานของทาสเราพยายามจะไป งอโลกให้เป็นดั่งใจเราจะทุกข์ปางตายแต่ สิ่งที่เราทำได้คืองอจิตของเราเองปรับจิต ให้รู้เท่าทันความจริงเมื่อจิตยอมรับความ จริงว่าช้อนไม่มีจริงทุกอย่างคือธาตุ จิตก็จะไม่ยึดติดกับรูปสงฆ์ของช้อนจะงอจะ หักจะหายไปจิตก็ไม่ทุกข์นี่คือความลับของ การแฮก the ในชีวิตจริงคุณไม่จำเป็นต้อง เหาะได้เหมือนนีโอแค่คุณมองเห็นคนขี้บ่น เป็นธาตุลมที่กำลังเคลื่อนที่ผ่านกล่อง เสียงคุณก็เป็นนีโอแล้วครับคุณได้ถอดถอน ความเป็นคนออกไปเหลือแต่สภาวธรรม พอพูดถึงเรื่องนี้ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าเราทุกคนมองโลกเป็นเพียงธาตุ 4 จริงๆ ความขัดแย้งสงครามหรือการแก่งแย่งชิงดี มันจะยังเกิดขึ้นได้มั้ยเราจะยังแย่งก้อน ดินหรือที่ดินทองคำกันอยู่มยถ้าเรารู้ว่า สุดท้ายมันก็คือทาสที่ต้องสลายไปเรื่อง นี้มันก็มีหลายมุมมองจริงๆแต่ผมยังหาคำ ตอบที่ชัดเจนให้ตัวเองไม่ได้เลยว่า ระหว่างการมองโลกแบบสมมติเพื่อใช้ชีวิต ทางโลกกับการมองโลกแบบปรมัตถเพื่อความ หลุดพ้นเราจะหาจุดสมดุลตรงไหนที่จะทำให้ เราอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุขโดยไม่บ้า ไปซะก่อนวันนี้ผมเตรียมข้อมูลเรื่องธาตุ 4 และความว่างมาเล่าให้ฟังประมาณนี้ครับแต่ ผมเชื่อว่าผู้ฟังหลายท่านในที่นี้น่าจะมี ประสบการณ์หรือมีความรู้ในรายละเอียดของ ธาตุทั้ง 4 ที่ลึกซึ้งกว่าผมเช่นลักษณะ ของธาตุไฟที่เผาผลาญหรือธาตุน้ำที่เอิบ อาบผมเล่าในมุมของคอนเซปตภาพรวมแต่ผมอยาก รู้จังว่าถ้าในมุมของคนที่ฝึกกรรมฐานธาตุ มาโดยตรงเขาจะมีเทคนิคการแยกธาตุในชีวิต ประจำวันยังไงให้ไม่หลงไปกับมายา ถ้าให้คุณนึกถึงคำหนึ่งคำที่อธิบายสิ่ง ของที่คุณรักและหวงแหนที่สุดในตอนนี้ไม่ ว่าจะเป็นรถบ้านหรือแม้แต่คนรักแล้วลอง แทนที่คำนั้นด้วยคำว่าทาสรถคันหรูเท่ากับ ก้อนธาตุเหล็กบ้านหลังใหญ่เท่ากับก้อน ธาตุดิน ลองพิมพ์คำว่าแค่ทาสลงในคอมเมนต์ดูครับ เพื่อเป็นการเตือนจิตใต้สำนึกของเราว่า อย่าไปยึดมั่นถือมั่นกับฟองน้ำที่กำลังจะ แตกแต่การมองเห็นว่าวัตถุไม่มีจริงเป็น เพียงแค่ด่านแรกครับสถาปนิกผู้สร้าง matทริก์ไม่ได้สร้างแค่ภาพลวงตาทางวัตถุ แต่เขาได้สร้างกับดักที่ซับซ้อนกว่านั้น นั่นคือกับดักของเวลาคุณคิดว่าเวลาเดิน เป็นเส้นตรงเหรอครับคุณคิดว่าโลกนี้มี ความต่อเนื่องล่ะครับสิ่งที่คุณกำลังจะ ได้ยินในหัวข้อถัดไปจะทำลายสามัญสำนึก เรื่องเวลาของคุณจนหมดสิ้นเราจะไปเจาะลึก เรื่อง The Digital Rain สายฝนดิจิทอล เราจะไปดูกันว่าใน 1 วินาทีจิตของคุณเกิด ดับกี่ล้านครั้งและทำไมโลกที่เราเห็นว่า ลื่นไหลเหมือนหนังภาพยนตร์ระดับ 4K จริงๆ แล้วมันคือภาพนิ่งที่กระพริบถี่ยิบจนหลอก ตาเรามาตลอดชีวิตเตรียมใจไว้นะครับเพราะ เมื่อคุณรู้ความลับข้อนี้แล้วคุณอาจจะ เริ่มสงสัยว่าตัวคุณที่กำลังฟังประโยคนี้ อยู่กับตัวคุณที่ฟังประโยคเมื่อกี้ใช่คน เดียวกันจริงหรือเปล่า คุณจำภาพที่ติดตาที่สุดภาพนึงของ The Matrix ได้ไหมครับภาพของรหัสสีเขียวที่ ไหลลงมาเหมือนสายฝนบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ตัวเลขและตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นที่วิ่งลงมา เป็นแนวดิ่งสำหรับคนทั่วไปในหนังมันคือ สreen saver หรือหน้าจอการทำงานที่ดูไม่ รู้เรื่องแต่สำหรับนีโอหรือไซเฟอร์คนที่ ตื่นแล้วหรือคนที่อยู่ในระบบปฏิบัติการ พวกเขาไม่ได้เห็นเป็นแค่ตัวเลขแต่พวกเขา เห็นเป็นผู้หญิงชุดแดงเห็นเป็นตึกร้าฟ้า เห็นเป็นรถยนต์เห็นเป็นรสชาติของสเตกสิ่ง ที่ผมกำลังจะพาคุณไปสำรวจในตอนนี้คือความ ลับที่ซ่อนอยู่หลังสายฝนดิจิทัลนั้นเราจะ ไปดูกันว่าทำไมโลกที่เราเห็นว่าต่อเนื่อง เหมือนสายน้ำแท้จริงแล้วมันคือเม็ดฝนที่ ร่วงหล่นลงมาทีละเม็ดทีละเม็ดด้วยความ เร็วที่น่าเหลือเชื่อถ้าคุณคิดว่าเรื่อง ช้อนไม่มีจริงในตอนที่แล้วมันหนักหนาแล้ว เรื่องนี้จะทำให้พื้นดินที่คุณยืนอยู่ สั่นสะคือนยิ่งกว่าเพราะเรากำลังจะเอา วิทยาศาสตร์สมัยใหม่อย่าง quantum physic มาวางทาบลงบนคัมภีร์ที่เก่าแก่ที่สุด อย่างพระอภิธรรมแล้วคุณจะพบว่าทั้ง 2 สิ่งนี้กำลังพูดเรื่องเดียวกันเริ่มกัน ที่ฝั่งวิทยาศาสตร์ก่อนครับมีการทดลอง หนึ่งที่โด่งดังมากและเป็นรากฐานของ กลสัต์ Quantum ชื่อว่า The Double Slit Experiment หรือการทดลองช่องสิคู่นัก วิทยาศาสตร์พยายามยิงอนุภาคเล็กๆอย่าง อิเล็กตรอนผ่านแผ่นกั้นที่มีช่องว่าง 2 ช่องไปตกกระทบที่ฉากรับภาพด้านหลังตาม สามัญสำนึกของเราถ้าเรายิงลูกปืนผ่าน หน้าต่าง 2 บานรอยกระสุนที่กำแพงด้านหลัง ก็ควรจะเป็น 2 แถบตรงกับหน้าต่างใช่มั้ ครับแต่ผลลัพธ์ที่ได้มันกลับกลายเป็นริ้ว การแทรกสอดเหมือนคลื่นน้ำคือมีหลายแถบ ทั้งตรงกลางและด้านข้างมันหมายความว่า อิเล็กตรอน 1 ตัวสามารถเป็นได้ทั้งอนุภาค กอนวัตถุและคลื่นพลังงานในเวลาเดียวกัน และที่น่าขนลุกไปกว่านั้นคือมันเหมือนกับ ว่าอิเล็กตรอนตัวเดียวสามารถวิ่งผ่านทั้ง 2 ช่องได้พร้อมกันนักวิทยาศาสตร์งงมาก เลยตัดสินใจเอาเครื่องตรวจจับหรือกล้องไป ติดไว้ที่ช่องสลิเพื่อจะแอบดูว่าตกลง อิเล็กตรอนมันวิ่งผ่านช่องไหนกันแน่และ นี่คือจุดที่Matทรกเปิดเผยตัวตนออกมาครับ ทันทีที่มีผู้สังเกตหรือมีกล้องไปจับตาดู มันพฤติกรรมของอิเล็กตรอนเปลี่ยนทันทีจาก ที่เคยเป็นคลื่นที่เป็นไปได้ทุกช่องทาง มันกลับยุบตัวคapsกลายเป็นอนุภาควิ่งผ่าน ช่องใดช่องหนึ่งเพียงช่องเดียวเหมือนลูก ปืนปกติและลายบนฉากรับภาพก็กลายเป็นแค่ 2 แถบนี่มันหมายความว่ายังไงมันหมายความว่า ความจริงไม่ได้มีอยู่ลอยๆรอให้เราไปเจอ แต่ความจริงเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีผู้เข้า ไปสังเกตมันถ้าไม่มีใครมองอิเล็กตรอนเป็น แค่ความน่าจะเป็นเป็นแค่คลื่นความถี่ที่ ล่องลอยแต่พอเราหันไปมองมันปุ๊บมันถึงจะ render ตัวเองออกมาเป็นวัตถุให้เราเห็น บอกตามตรงผมไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมคนถึง ชอบคิดว่าโลกนี้เป็นของแข็งและมีอยู่จริง อย่างถาวรในเมื่อฟิิกส์พิสูจน์ชัดเจนแล้ว ว่าโลกนี้รอให้เราประมวลผลมันถึงจะปรากฏ ขึ้นมาถ้าให้ผมฟันธงเลยนะผมว่านี่คือหลัก ฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนที่สุดว่าเรา อยู่ใน simulation หรือโลกจำลองที่ ประหยัดทรัพยากรการ์ดจออย่างมหาศาลคือมัน จะ render ภาพเฉพาะตรงหน้าเราเท่านั้น ส่วนข้างหลังเราหรือที่ที่เรามองไม่เห็น มันไม่ได้ render เป็นภาพมันเป็นแค่โค้ด ข้อมูลดิบผมค่อนข้างมั่นใจว่าแนวคิดนี้ มันอธิบายปรากฏการณ์แปลกๆในชีวิตได้หลาย อย่างแต่ก็นั่นแหละครับมันอาจจะเป็นความ คิดของผมคนเดียวก็ได้เพราะมันดูหลุดโลกไป หน่อยสำหรับคนทั่วไปทีนี้ลองวางฟิสิกส์ลง ชั่วคราวแล้วหันมาดูสิ่งที่พระพุทธเจ้า ค้นพบเมื่อปีก่อนโดยไม่มีห้องแลบไม่มี เครื่องเร่งอนุภาค แค่จิตที่ฝึกฝนมาดีแล้วท่านค้นพบสิ่งที่ เรียกว่าจิตเกิดดับเรามักจะเข้าใจว่าจิต หรือวิญญาณของเราเป็นดวงไฟดวงหนึ่งที่ สว่างวาบแล้วก็ลอยไปลอยมาอยู่กับเราตลอด เวลาตั้งแต่เกิดจนตายแต่ในทางอภิธรรมซึ่ง เป็นคัมภีร์ที่เจาะลึกสภาวะปรมัตถระบุไว้ ชัดเจนมากครับว่าไม่มีจิตที่เที่ยงแท้ ถาวรจิตดวงเดียวเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ ดับไปความเร็วการเกิดดับนี้เร็วแค่ไหนใน ตำราบอกว่าชั่วลัดนิ้วมือเดียวดีดนิ้ว เปราะเดียวจิตเกิดดับไปแล้วแสนโกรธขณะแสน โกรธคือล้านล้านครั้งนะครับมันเร็วกว่า CPU ของซุเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่ที่ สุดในโลกตอนนี้ซะอีกเพื่อให้เห็นภาพผม อยากให้คุณนึกถึงแผ่นฟิล์มภาพยนตร์เวลา เราดูหนังในโรงเราเห็นพระเอกวิ่งเห็นนาง เอกร้องไห้เห็นภาพเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่อง นุ่มนวลแต่ถ้าเราเดินเข้าไปในห้องฉายหนัง แล้วดึงฟิล์มออกมาดูเราจะเห็นว่ามันคือ ภาพนิ่งที่เรียงต่อกันเป็นพันๆหมื่นๆภาพ ที่ 1 พระเอกยกขาภาพที่ 2 ขาลอยขึ้นนิด นึงภาพที่ 3 ขาลอยขึ้นสู่สูงขึ้นระหว่าง ภาพที่ 1 กับภาพที่ 2 มีช่องว่างสีดำขั้น อยู่แต่เพราะเครื่องฉายหนังมันหมุนฟิล์ม ด้วยความเร็ว 24 เมต่อวินาที FPS ตาของ เราเลยทำงานไม่ทันสมองเลยหลอกเราว่าภาพ มันต่อเนื่องชีวิตของเราก็เหมือนกันครับ โลกที่เราเห็นว่าต่อเนื่องฉันกำลังนั่ง ฟังพcสฉันกำลังขับรถจริงๆแล้วมันคือภาพ นิ่งของจิตที่เกิดดับสลับกันถี่ยิบจิต เห็นจักขุวิญญาณ เกิดขึ้น 1 ขณะแล้วก็ดับไปจิตได้ยินโสต วิญญาณเกิดขึ้น 1 ขณะแล้วก็ดับไปจิตคิด นึกมโนวิญญาณเกิดขึ้น 1 ขณะแล้วก็ดับไป มันสลับกันเร็วมากจนเรารู้สึกว่าเราทั้ง เห็นและได้ยินพร้อมกันแต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เลยครับเราทำทีละอย่างรับรู้ทีละช่องทาง ในพระอภิธรรมมีการซูมเข้าไปดู 1 รอบการทำ งานของจิตหรือที่เรียกว่าวิถีจิตคอก cognitive process ไว้อย่างละเอียดมาก เหมือนถอด source code มาดูกันทีละ บรรทัดเขาบอกว่าในการรับรู้อารมณ์ 1 ครั้งเช่นเห็นรูป 1 ครั้งต้องใช้ขณะจิต ถึง 17 ขณะดวง 17 My moment ทำงานรับ ช่วงต่อกันลองจินตนาการเหมือนกระบวนการ คลิกเมาส์ 1 ครั้งในคอมพิวเตอร์นะครับขณะ ที่ 1-3 ภวังกจิตสั่นไหวเหมือน คอมพิวเตอร์ตื่นจาก Sleep Mode ขณะที่ 4 จิจิตหันไปดูอารมณ์ adverting เหมือน curs ขยับขณะที่ 5 จิตเห็น seeing เหมือนกด คลิกขณะที่ 6 จิตรับอารมณ์ receiving เหมือนข้อมูลถูกส่งเข้าrรมขณะที่ 7 จิต ไตร่ตรอง investigating เหมือน CPU ประมวลผลว่าคืออะไรขณะที่ 8 จิตตัดสิน Determining เหมือนโปรแกรมสรุปผลขณะที่ 9-15 ชวนจิตจาตรงนี้สำคัญที่สุดครับนี่ คือช่วงเวลาแห่งการเสพอารมณ์เป็นช่วงเวลา ที่เราใส่กรรมลงไปว่าจะชอบหรือจะเกลียดจะ กุศลหรืออกุศลเหมือนการเซฟข้อมูลลง ฮาร์ดดิสก์ขณะที่ 16-17 ตถาลัมพนะ registration เหมือนการบันทึกล็อกไฟล์ ปิดท้ายทั้งหมด 17 ขั้นตอนนี้เกิดขึ้นและ จบลงในเสี้ยววินาทีที่สั้นกว่าแสงกระพริบ นี่คือเม็ดฝนดิจิทอลในเวอร์ชั่นของชีวิต จริงครับแต่ละเม็ดฝนคือข้อมูลแต่ละขณะจิต ที่ร่วงหล่นลงมาจากความว่างเปล่าปรากฏ ขึ้นแล้วก็หายวับไปกลับสู่ความว่างเปล่า คำถามคือถ้ามันเกิดดับเร็วขนาดนี้และมี ช่องว่างขั้นนุตลอดเวลาทำไมเราถึงไม่เคย เห็นช่องว่างนั้นทำไมเราถึงรู้สึกว่าตัว เราเป็นก้อนที่ต่อเนื่องเนื่องเป็นตัวกู่ ที่นั่งอยู่ตรงนี้มา 1 ชั่วโมงแล้วคำตอบ คือเพราะสิ่งที่เรียกว่าสันตติสันตติแปล ว่าความสืบต่อมันคือภาพลวงตาที่เกิดจาก ความเร็วเหมือนเวลาคุณจุดธูปในที่มืดแล้ว แกว่งเป็นวงกลมเร็วๆคุณจะเห็นเป็นวงแหวน ไฟที่ต่อเนื่องสวยงามทั้งที่ความจริงมัน มีจุดไฟแค่จุดเดียวที่ปลายธูปและมันอยู่ ที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งเท่านั้นในเวลา หนึ่งแต่มันเคลื่อนที่เร็วเกินเกินไปจนตา ของเราลากเส้นต่อจุดให้เองสันตติคือ ฟีเจอร์หลักของ The Matrix ที่ใช้ปิดบัง ความจริงเรื่องอนิจจังความไม่เที่ยงถ้า ไม่มีสันตติเราจะเห็นตัวเองเกิดแล้วตาย เกิดแล้วตายอยู่ตลอดเวลาเราจะเห็นโลก กระพริบวิบวับวิบวับเหมือนหลอดไฟที่ใกล้ เสียแล้วถ้าเห็นแบบนั้นเราจะเบื่อหน่าย เราจะไม่อยากได้อยากมีอะไรในโลกนี้อีก เพราะมันจับต้องไม่ได้เลยนี่นี่เป็น ประสบการณ์ตรงของผมเลยที่เคยเจอครั้งนึง ผมเคยนั่งมองพัดลมเพดานที่กำลังหมุนติ้ว แล้วผมพยายามกระพริบตาถี่ๆให้ตรงกับ จังหวะการหมุนจนมีเสี้ยววินาทีนึงที่ผม เห็นใบพัดมันหยุดนิ่งทั้งๆที่มันกำลัง หมุนอยู่มันทำให้ผมขนลุกเลยครับเพราะผม ตระหนักได้ว่าที่เราเห็นมันเป็นวงกลมเบลอ ๆนั่นคือมายาแต่ใบพัดที่หยุดนิ่งต่างหาก คือความจริงในขณะนั้นไม่รู้ว่ามีใครเคย เจอโมเมนต์ที่พยายามจับผิดความจริงด้วย วิธีเล่นๆแบบนี้บ้างหรือเปล่าหรือใครเคย มีประสบการณ์ตอนที่ตกใจสุดขีดหรือ อุบัติเหตุแล้วภาพทุกอย่างมันslลว์ชัจน เห็นรายละเอียดชัดยิบนั่นแหละครับคือ จังหวะที่สติมันตื่นตัวจนเกือบจะทันความ เร็วของเฟมrทโลกพอพูดถึงเรื่องนี้ผมก็อด สงสัยไม่ได้ว่าถ้าเราสามารถฝึกสติจนมี ความละเอียดเท่ากับความเร็วของจิตคือเห็น ทั้ง 17 ขณะจิตได้อย่างชัดเจนเราจะเป็น ยังไงเราคงจะเหมือนนีโอในตอนจบภาคแรกที่ มองเห็นกำแพงเห็นพื้นเห็นอากาศเป็นแค่ รหัส 011 เราคงจะเดินทะลุกำแพงได้เพราะเรารู้ว่า กำแพงนั้นประกอบขึ้นจากเม็ดสีที่ห่างกัน เรื่องนี้มันก็มีหลายมุมมองจริงๆแต่ผมยัง หาคำตอบที่ชัดเจนให้ตัวเองไม่ได้เลยว่า ระหว่างการเห็นความจริงแบบนั้นกับการใช้ ชีวิตแบบคนปกติที่ไม่รู้อะไรเลยแบบไหนมัน มีความสุขกว่า แต่วันนี้ผมเตรียมข้อมูลมาเรื่องจิตเกิด ดับและวิถีจิตเพื่อจะบอกคุณว่าคุณไม่ได้ อยู่ในโลกความเป็นจริงแต่คุณอยู่ในโลกที่ คุณสร้างขึ้นเองวินาทีต่อวินาทีทุกสิ่ง ที่คุณเห็นคือการฉายภาพออกไปจากจิต Double Slit Experiment บอกว่าผู้สังเกตสร้าง ความจริงพระพุทธเจ้าบอกว่าจิตเป็นนายกาย เป็นบ่าวจิตเป็นผู้ปรุงแต่งสังขารดังนั้น ใครคือผู้สร้าง The Matrix ไม่ใช่หุ่นยนต์ไม่ใช่ AI แต่คือจิตของคุณ เองที่ทำงานร่วมกับอวิชชาคุณกำลัง render โลกใบนี้ render ความทุกข์ render ความ สุขขึ้นมาเองสดๆร้อนๆเดี๋ยวนี้แล้วถ้าคุณ หยุด Render ล่ะถ้าคุณถอดปลั๊ก โปรเจคเตอร์นี้ออกล่ะนี่คือสิ่งที่น่า กลัวที่สุดสำหรับระบบเพราะถ้ารู้ว่ามัน ไม่มีจริงเราจะเลิกอินและถ้าเราเลิกอิน ระบบจะดูดพลังงานจากเราไม่ได้ผมเล่าในมุม ของวิทยาศาสตร์quวตัมเทียบกับอภิธรรมแต่ ผมอยากรู้จังว่าถ้าในมุมของนักฟิสิกส์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์กราฟics ที่ฟังอยู่ตอนนี้เขาจะมองเรื่องrefรช rate ของจักรวาลนี้ยังไงเรื่องนี้ผมรู้ประมาณ นี้ครับแต่ผมมั่นใจว่าต้องมีคนรู้ลึก เรื่องquวตัมหรือเรื่องการทำงานของพิกเซล หน้าจอที่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ภาพลวงตา นี้ได้ดีกว่าผมแน่ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มผู้ ฟังใครที่มีความรู้ด้านนี้ลองแชร์หน่อย ครับว่าในทางเทคนิคแล้วเป็นไปได้มยที่ จักรวาลของเราจะเป็นแค่โฮโลแกรมถ้าให้คุณ นึกถึงคำ 1 คำที่อธิบายช่องว่างระหว่าง ความคิดหรือช่องว่างระหว่างความรู้สึกที่ คุณเคยสัมผัสบางคนอาจจะบอกว่าความเงียบ บางคนอาจจะบอกว่าความว่างสำหรับผมมันคือ คำว่าresีetเพราะทุกครั้งที่จิตดับลงมัน คือการรีตระบบใหม่ก็น่าสนใจนะครับว่าแต่ ละคนจะนึกทิ้งคำว่าอะไรลองพิมพ์คำๆนั้น ทิ้งไว้ครับเผื่อว่าคำของคุณจะไปสะกิดใจ ให้ใครบางคนเริ่มมองหาช่องว่างในใจตัวเอง เจอเราเดินทางมาถึงจุดที่ลึกที่สุดของ ทฤษฎีแล้วครับเรารู้แล้วว่าโลกภายนอกเป็น แค่ธาตุ 4 เรารู้แล้วว่าโลกภายในเป็นจิต ที่เกิดดับเหมือนเม็ดฝนดิจิทอลเรารู้แล้ว ว่าความต่อเนื่องคือภาพลวงตาแต่การรู้ ด้วยสมองกับการเห็นด้วยใจมันคนละเรื่อง กันครับนีโอรู้ว่าเขากระโดดคามตึกได้แต่ เขาก็ยังตกลงมาในครั้งแรกเพราะใจเขายัง ไม่เชื่อเขาต้องผ่านการฝึกฝนเขาต้องผ่าน บททดสอบกลิ่นหอมของคุกกี้อบใหม่ๆลอยแตะ จมูกทามกลางโลกของเทริก์ที่เต็มไปด้วยตึก สูงเสียดฟ้าสายฝนดิจิตัลและอันตรายที่มอง ไม่เห็นกลับมีสถานที่หนึ่งที่ดูเหมือน หลุดออกมาจากอีกมิติห้องครัวเล็กๆที่ดูอบ อุ่นหญิงชราท่าทางใจดีกำลังสูบบุหรี่และ อบขนมเธอคือเทพยากรหรือ The Oracle คุณจำฉากแรกที่นีโอเดินเข้าไปพบเธอได้ไหม ครับฉากที่กลายเป็นปริศนาโลกแตกที่ทำให้ นักปรัชญาเถียงกันไม่จบไม่ต้องกังวล เรื่องแจกันนะเธอบอกนีโอนีโอทำหน้างงแจ กันอะไรครับและในจังหวะที่เขาหันไปมอง นั่นเองศอกของเขาก็ไปกระแทกแจกันใบสวยตก ลงมาแตกกระจาย แจกกันใบนั้นแหละเธอยิ้มตอบคำถามที่น่าขน ลุกที่สุดในฉากนี้ไม่ใช่เธอรู้ได้ยังไง แต่คำถามคือถ้านีโอไม่หันไปตามคำทักของ เธอแจกกันจะแตกมยหรือพูดให้ลึกกว่านั้น คือนีโอเป็นคนทำใจกันแตกด้วยเจตนาของเขา เองหรือเขาถูกโปรแกรมให้แตกตั้งแต่แรก แล้วนี่คือหัวใจของความขัดแย้งที่ยิ่ง ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ความคิดมนุษย์ ครับเสรีภาพในการเลือกหรือ free will ปะทะกับชะตาที่ถูกกำหนดไว้แล้วหรือ Determinism ถ้าโลกนี้คือ simulation จริงๆถ้าทุก อย่างคือรหัส 0 และ 1 ที่ถูกเขียนโดย สถาปนิกแปลว่าตัวเลือกของเราไม่มีจริงใช่ ไหมมแปลว่าการที่คุณตัดสินใจกดเข้ามาฟัง พcสนี้ไม่ใช่ความต้องการของคุณแต่เป็น สิปตที่ถูกเขียนไว้เมื่อ 1000 ปีที่แล้ว ใช่ไหมถ้าให้ผมฟังฟันธงเลยนะผมว่าคนส่วน ใหญ่ในโลกใช้ชีวิตแบบไม่มีทางเลือกครับ เราใช้ชีวิตแบบ determinis หรือถูกกำหนด มาแล้วเกือบ 100% เราตื่นตามเวลาเดิมของที่โฆษณาบอกให้อยาก กินแต่งงานตามค่านิยมสังคมและตายไปตาม สถิติอายุไขผมค่อนข้างมั่นใจว่าเจตจำนง เสรีเป็นของหายากและมีราคาแพงลิบลิ่วที่ ต้องแลกมาด้วยการฝึกฝนจิตอย่างหนักหน่วง แต่ก็นั่นแหละครับมันอาจจะเป็นมุมมองที่ ดูโหดร้ายไปหน่อยสำหรับคนที่เชื่อว่าตัว เองมีอิสระแต่ในทางพุทธศาสนาเชิงลึกคำตอบ เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่สุดโต่งข้างใดข้าง หนึ่งครับพระองค์ไม่ได้บอกว่ากรรมเก่า กำหนดทุกอย่างและไม่ได้บอกว่าเราทำอะไรก็ ได้ตามใจชอบความจริงมันซ่อนอยู่ในกลไกการ ทำงานของจิตที่ละเอียดมากครับตรงรอยต่อ ระหว่างอดีตกับปัจจุบัน จำเรื่องวิถีจิตหรือกระบวนการทำงานของจิต 17 ขณะที่เราคุยกันเมื่อกี้ได้มั้ครับ ตรงนี้แหละครับคือจุดที่เทพยากรทำงานอยู่ ในทางธรรมเราแบ่งเหตุการณ์ออกเป็น 2 ช่วง ที่สำคัญมากครับช่วงที่ 1 คือผลของกรรม เก่าหรือวิปากะ ช่วงที่ 2 คือการกระทำใหม่หรือกรรมะ ลองจินตนาการว่าคุณเดินไปตามถนนแล้วจู่ๆ มีคนเดินมาชนคุณอย่างแรงจนกาแฟหกใส่เสื้อ วินาทีที่ชนวินาทีที่เห็นเสื้อเลอะวินาที ที่รู้สึกร้อนวูบที่ผิวหนังตรงนี้ครับคือ วิบากหรือผลกรรมเก่ามันคือผัสสะหรือ คอนแทคที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อให้คุณเป็น พระอรหันต์คุณก็ห้ามไม่ให้เขาวิ่งมาชนไม่ ได้เพราะมันเป็นผลลัพธ์จากอัลกอิธึมที่ คุณเคยเขียนไว้ในอดีต input เก่าส่งผล เป็น output ปัจจุบันในส่วนนี้เราไม่มี ฟรีวครับเราเป็นแค่ตัวละครที่ต้องรับบท บาทตามบทที่เขียนมาแจกกันที่ต้องแตกยังไง ก็ต้องแตกแต่ความมหัศจรรย์มันเกิดขึ้นใน เสี้ยววินาทีถัดมาหลังจากที่กาแฟหกใส่ เสื้อแล้วจิตของคุณจะทำอะไรต่อคุณจะโกรธ แล้วด่ากราดคุณจะให้อภัยแล้วยิ้มให้หรือ คุณจะเฉยๆแล้วเดินไปล้างตรงนี้แหละครับ คือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ติดที่สถาปนิกควบ คุมไม่ได้ตรงนี้คือช่วงเวลาของชวนะคำว่า ชวนะชวนะแปลว่าการแล่นไปหรือการเสพซ้ำใน 17 ขณะจิตช่วงชวนะจะกินเวลาไปถึง 7 ขณะ นี่คือช่วงเวลาที่คุณมีอำนาจในการตัดสิน ใจอย่างแท้จริงครับคุณจะเลือกปรุงแต่ง เหตุการณ์นี้ยังไงถ้าคุณเลือกที่จะโกรธ อกุศลจิตเกิดเท่ากับคุณกำลังเขียนโค้ดแย่ ๆบรรทัดใหม่ลงไปในฮาร์ดดิสก์เตรียมรอรับ ผลร้ายในอนาคตถ้าคุณเลือกที่จะให้อภัย กุศลจิตเกิดเท่ากับคุณกำลังเขียนโค้ดดีๆ ลงไปหรือถึงขั้นล้างไวรัสออกจากระบบ เทพยากรในหนังพูดประโยคนึงที่คมคายมาก ครับเธอน่ะตัดสินใจไปแล้วหน้าที่ของเธอ ตอนนี้คือเข้าใจว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจแบบ นั้น Youve already made the choice. Now you have to understand it. ประโยคนี้สะท้อนสภาวะของมนุษย์ทั่วไปได้ เจ็บแสบมากครับเพราะส่วนใหญ่เราไม่ได้ใช้ ชวรรณจิตในการเลือกจริงๆหรอกครับเราใช้ ความเคยชินหรืออนุสัย เราโกรธจนชินเราลอบจนชินเราขี้เกียจจนชิน พอมีอะไรมากระทบปุ๊บเราก็ตอบโต้แบบเดิม ปั๊บออโต pilot แบบนี้แหละครับที่เรียก ว่าไม่มี free view เราเป็นแค่หุ่นยนต์ ที่รันตามสิปตเดิมๆนี่เป็นประสบการณ์ตรง ของผมเลยที่เคยเจอเวลาขับรถและมีคนปาด หน้าเมื่อก่อนผมจะบีบแตรด่าทันทีโดยไม่ ต้องคิดมันเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติที่เร็ว มากจนวันนึงผมเริ่มฝึกสติผมเห็นจังหวะที่ ความโกรธมันพุ่งขึ้นมาที่อกแต่ผมสามารถ เบรกมันไว้ได้ทันก่อนที่จะบีบแตรวินาที นั้นผมรู้สึกถึงอำนาจที่แท้จริงครับอำนาจ ที่จะไม่เล่นตามเกมที่กิเลสสั่งไม่รู้ว่า มีใครเคยเจอโมเมนต์คล้ายๆกันแบบนี้บ้าง หรือเปล่าที่เรารู้สึกว่าเราชนะตัวเองได้ ในเสี้ยววินาทีวิกฤตการปฏิบัติธรรมในความ หมายของ The Matrix จึงไม่ใช่การไปนั่ง หลับตาเฉยๆแต่มันคือการฝึกเพื่อขยายเวลา ของช่วงชวรรณจิตให้เราเห็นทันเพื่อให้เรา มีสติพอที่จะแทรกแซงกระบวนการอัตโนมัติ นั้นจากที่เคยเป็นทาสของแรงกระตุ้นให้ กลายเป็นผู้เลือกการตอบสนองพอพูดถึง เรื่องนี้ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าเราทุก คนสามารถควบคุมชวนจิตได้ 100% คือมีสติ รู้เท่าทันทุกการตัดสินใจโลกของเราจะ เปลี่ยนไปขนาดไหนจะยังมีอาชญากรรมมั้ยจะ ยังมีสงครามมั้ยถ้าทหารทุกคนมีสติก่อนจะ เหนี่ยวไก่หรือถ้านักการเมืองมีสติก่อนจะ เซ็นอนุมัติโครงการทุจริตเรื่องนี้มันก็ มีหลายมุมมองจริงๆแต่ผมยังหาคำตอบที่ชัด เจนให้ตัวเองไม่ได้เลยว่าระหว่างสันดาน ดิบกับปัญญาที่ฝึกฝนมาฝ่ายไหนมีแต้มต่อ มากกว่ากันในสังคมปัจจุบันและสิ่งที่น่า กลัวคือระบบเมริกหรือสังคมบริโภคนิยม พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งชิงช่วงเวลา ชวรรณจิตนี้ไปจากเราสังเกตมั้ครับโฆษณา ต้องสั้นกระชับเร็วฟรี TikTok เลื่อนเร็ว ๆแจ้งเตือนมือถือต้องดังตลอดเวลาเพื่อให้ เราคิดไม่ทันเพื่อให้เราใช้แค่สัญชาตญาณ ในการตัดสินใจกดซื้อกดไลค์กดแชร์เค้าไม่ อยากให้เรามีฟรีวเขาอยากให้เราเป็น user ที่เชื่อฟังในฉากที่เทพยากรยื่นคุกกี้ให้ นีโอกินซะแล้วเธอจะรู้สึกดีขึ้นการกิน คุกกี้การยอมรับโปรแกรมบางอย่างเข้าสู่ ร่างกายแต่คราวนี้นีโอกินด้วยความรู้ตัว กินด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจไม่ใช่กิน เพราะความหิวโหยวันนี้นอกจากเรื่อง ชวรรณจิตผมเตรียมข้อมูลเรื่องอนุสัยกิเลส มาเสริมอีกนิดหน่อยซึ่งเป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้เราเลือกผิดสำ นี้น่าจะมีประสบการณ์หรือมีความรู้เรื่อง จิตวิทยาพฤติกรรม หรือ behavioral psychology ที่อธิบาย เรื่อง Habit Loop หรือวงจรนิสัยซึ่งมัน สอดคล้องกับเรื่องชวรรณจิตและอนุสัยในทาง พุทธมากผมเล่าในมุมของพระอภิธรรมแต่ผม อยากรู้จังว่าถ้าในมุมของนักจิตวิทยาสมัย ใหม่เขาจะมีเทคนิคการ break the loop หรือหักดิบนิสัยเสียยังไงโดยที่ไม่ต้อง ใช้ศัพท์บาลียากเรื่องนี้ผมรู้ประมาณนี้ ครับแต่ผมมั่นใจว่าต้องมีคนรู้ลึกเรื่อง การปรับพฤติกรรมซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มผู้ฟัง แน่ ถ้าใครมีเทคนิคดีๆแชร์กันได้ครับถ้าให้ คุณนึกถึงคำๆหนึ่งที่เปรียบเสมือนอาวุธ ที่คุณจะใช้ปกป้องวิวของคุณไม่ให้ไหลไป ตามกระแสกิเลสสำหรับผมคือคำว่าเดี๋ยวก่อน แค่เราบอกตัวเองว่าเดี๋ยวก่อนช้าลงอีกนิด ก่อนจะพูดก่อนจะทำก่อนจะคลิกแค่นี้เราก็ ได้ดึงอำนาจการควบคุมกลับมาสู่มือเราแล้ว ก็น่าสนใจนะครับว่าแต่ละคนจะนึกถึงคำว่า อะไรลองเลือกคำประจำใจของคุณดูสรุปในองค์ นี้สิ่งที่ผมอยากจะฝากไว้คือเราเปลี่ยน สิ่งที่เข้ามากระทบเช่นแจกกันแตกคนด่ารถ ติดไม่ได้เพราะนั่นคือวิบากกรรมแต่เรา เปลี่ยนจิตที่จะไปรับรู้มันได้เสมอคุณไม่ ได้เป็นแค่ผู้ดูที่ไร้ทางสู้แต่คุณเป็น ผู้เล่นที่มีสิทธิ์ถือจอยเกมในช่วงเวลา สำคัญอย่าปล่อยให้จอยเกมหลุดมืออย่าปล่อย ให้ออโต้ Pilot ขับเคลื่อนชีวิตคุณจนลง เหตุ ตอนนี้เราเข้าใจกลไกของความเป็นจริงแล้ว เราเข้าใจระบบเวลาแล้วและเราเข้าใจอำนาจ ในการเลือกแล้วถึงเวลาแล้วที่เราจะรวบรวม ความรู้ทั้งหมดนี้เพื่อก้าวเข้าสู่กระบวน การที่เข้มข้นที่สุดนั่นคือลงมือปฏิบัติ จริงในแ 3 ที่กำลังจะมาถึง The Path of the One เราจะไม่พูดถึงทฤษฎีสวยหรูอีก ต่อไปแล้วแต่เราจะพูดถึงวิธีการทำอย่างไร เราถึงจะกินยาเม็ดสีแดงได้ในทุกลมหายใจทำ อย่างไรเราถึงจะเริ่มแฮกระบบประสาทสัมผัส ของเราให้ตื่นจากความหลับไหลนีโอต้องฝึก กังฟูนานหลายชั่วโมงในโปรแกรมจำลองจิตของ เราก็ต้องฝึกวิปัสสนานานหลายชั่วโมงเช่น กันเส้นทางนี้ไม่ง่ายครับบอกเลยว่ายากและ เจ็บปวดเพราะคุณต้องแลกมันมากับการทิ้ง สิ่งที่คุณรักที่สุดนั่นคือตัวตนของคุณ เองพร้อมมครับที่จะเดินเข้าสู่เส้นทางสาย เอกเส้นทางที่มีไว้สำหรับtheวันหรือผู้ ที่เลือกจะตึตื่นเท่านั้นนี่คือโอกาสสุด ท้ายของคุณหลังจากนี้จะไม่มีการหันหลัง กลับคุณจำวินาทีนั้นได้ไหมวินาทีที่ มอรเฟียสนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีแดงเก่า คร่ำคาสวมแว่นตาดำที่สะท้อนภาพของนีโอผู้ กำลังสับสนในมือของเขาแบออกเผยให้เห็นยา เม็ด 2 สีกินยาเม็ดสีน้ำเงินเรื่องจบแค่ นี้คุณตื่นนอนบนเตียงแล้วเชื่อในสิ่งที่ คุณอยากจะเชื่อ กินยาเม็ดสีแดงคุณจะไปต่อในดินแดน มหัศจรรย์และผมจะทำให้เห็นว่าโพรงกระต่าย นี้มันลึกแค่ไหนฉากนี้ไม่ใช่แค่ฉากหนัง แอคชั่นแต่มันคือฉากที่จำลองทางแยกที่ สำคัญที่สุดของชีวิตจิตวิญญาณทางแยกที่ เราทุกคนต้องเจอไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแต่ เราเจอมันทุกวันทุกเช้าที่ตื่นนอนและทุก ครั้งที่ความทุกข์ถาโถมเข้ามายาเม็ดสี น้ำเงินคือสัญลักษณ์ของการยอมจำนนต่อ วัฏฏสงสารมันคือการเลือกที่จะลับตาข้าง หนึ่งแล้วบอกตัวเองว่าไม่เป็นไรหรอกชีวิต ก็เป็นแบบนี้แหละมันคือการเลือกความสุข ฉาบฉวยการเสพสื่อบันเทิงการเมามายในอำนาจ และเงินตราเพื่อกลบเสียงร้องเตือนในใจที่ บอกว่าโลกนี้มันปลอมการกินยาเม็ดสี น้ำเงินคือการกลับไปนอนต่อในแคปซูลให้ ระบบสูบพลังงานชีวิตเราไปเรื่อยๆแลกกับ ความฝันหวันหวานชั่วครั้งชั่วคราวส่วนยา เม็ดสีแดงมันคือสัจธรรมมันขมมันกลืนยาก และเมื่อกินเข้าไปแล้วมันจะไปทำลายโลกใบ เก่าของคุณจนพังพินาศคุณจะกลับไปมองโลก สวยงามเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้วแต่สิ่งที่ คุณจะได้มาคือความจริงและอิสรภาพ ในทางพุทธศาสนาการยื่นมือออกไปหยิบยาเม็ด สีแดงแล้วกลืนมันลงคอเราเรียกสภาวะจิตนี้ ว่าอธิษฐานบารมี หรืออธิษฐาน มันไม่ใช่การขอพรดวงดาวแต่มันคือการตั้ง จิตอย่างแน่วแน่ว่าเราจะเอาจริงมันคือการ รับไตรสรณคมพุทธังสะระณังคัจฉามิข้าพเจ้า ขอถือเอาผู้ตื่นเป็นที่พึ่งนั่นหมายความ ว่าคุณกำลังประกาศสงครามกับระบบmatทriคุณ กำลังบอกสถาปนิกว่าฉันจะไม่เชื่อฟังโค้ด ของคุณอีกต่อไปพอพูดถึงเรื่องนี้ผมก็อด สงสัยไม่ได้ว่าถ้าในชีวิตจริงมีคนเดินเอา เม็ดยาสีแดงมายื่นให้คุณแล้วบอกว่ากินซะ แล้วคุณจะเห็นความจริงว่าตัวตนของคุณไม่ มีอยู่จริงลูกเมียที่คุณรักเป็นแค่ภาพ มายาทรัพย์สินที่คุณหามาทั้งชีวิตเป็นแค่ ธาตุ 4 คุณจะกล้ากินมันมยหรือคุณจะปัดมือ เขาออกแล้ววิ่งกลับไปกอดความฝันเดิมๆ เรื่องนี้มันก็มีหลายมุมมองจริงๆแต่ผมยัง หาคำตอบที่ชัดเจนให้ตัวเองไม่ได้เลยว่า ระหว่างความสุขที่เกิดจากความไม่รู้กับ ความทุกข์ที่เกิดจากความรู้ความจริงอะไร มันทรมานน้อยกว่ากันแต่สำหรับคนที่ฟังมา ถึงตรงนี้ผมเชื่อว่าคุณคือคนที่เอื้อมมือ ไปหยิบยาเม็ดสีแดงนั้นแล้ววินาทีที่คุณ ตัดสินใจศึกษาธรรมะเชิงลึกวินาทีที่คุณ เริ่มเบื่อหน่ายการเวียนว่ายตายเกิดนั่น แหละครับยาเม็ดสีแดงกำลังเริ่มออกฤทธิ์ แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเพราะทันทีที่ นีโอกินยาเขาตื่นขึ้นมาในโลกความเป็นจริง ที่โหดหรักร้ายร่างกายเขาหลีบผอมเขา อาเจียนเขาตกใจการตื่นรู้ไม่ใช่เรื่องสวย หรูเหมือนนั่งบนดอกบัวแล้วมีแสงส่องครับ แต่มันคือการเผชิญหน้ากับความจริงที่น่า สะพรึงกลัวของขันธ์ 5 แล้วหลังจากนั้น กระบวนการที่สำคัญที่สุดก็เริ่มขึ้นคุณจำ ฉากที่นีโอนอนอยู่บนเตียงเข็มแล้วมีสาย เสียบที่หลังคอแทงค์โอเปเรเตอร์หน้าเข้ม กำลังรัวนื้อบนคีย์บอร์ดเพื่ออัปโหลดข้อ มูลเข้าสู่สมองของนีโอยิวยิซูผมจะโหลดให้ เดี๋ยวนี้นีโอกระตุกร่างกายเกร่งแล้วลืม ตาขึ้นมาด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปผมรู้จัก กังฟู I know คังฉากนี้คือคำอธิบายที่ เห็นภาพที่สุดของการศึกษาพระปริยัตติธรรม การอ่านพระไตรปิฎกการฟังพcสนี้หรือการ ศึกษาพระอภิธรรมเปรียบเสมือนการดาวน์โหลด ซอฟต์แวร์การต่อสู้เข้าสู่จิตเรากำลัง โหลดข้อมูลที่ชื่อว่าสติสติปัฏฐาน 4 เข้า สู่ระบบปฏิบัติการของเราทำไมต้อง สติปัฏฐาน 4 เพราะในโลกของmatทริกศัตรู ของเราไม่ใช่คนแต่เป็นกิเลสที่แทรกซึม อยู่ทุกอโนกิเลสโจมตีเราทางตาหูจมูกลิ้น กายใจถ้าเราไม่มีวิชากังฟูทางจิตเราจะ เสร็จมันทันทีที่ลืมตาตื่นสติปัฏฐาน 4 คือศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวขั้นสูงสุด ที่พระพุทธเจ้าเขียนโคดทิ้งไว้ให้มาดูกัน ครับว่ากังฟูทั้ง 4 ท่านี้มีอะไรบ้างแล้ว เราจะเอาไปสู้กับ agent smิในใจของเราได้ อย่างไรท่าที่ 1 กายานุปัสสนา ดูร่างกายใน simulation นีโอต้องเรียนรู้ ว่าร่างกายที่เขาเห็นไม่ใช่ของจริงแต่ เป็น residual self image หรือภาพตก ค้างของจิตการฝึกดูกายคือการถอดรหัสว่า ไอ้ก้อนเนื้อที่นั่งอยู่นี่ไม่ใช่เรานี่ เป็นประสบการณ์ตรงของผมเลยที่เคยเจอตอน เริ่มฝึกดูกายใหม่ๆผมใช้วิธีมองร่างกาย ตัวเองเหมือนหุ่นยนต์ชีวภาพเวลาเดินผม สังเกตการเคลื่อนไหวของกระดูกและกล้าม เนื้อเหมือนเรากำลังขับรถกันดั้มอยู่ไม่ ใช่เราเดินแต่เป็นธาตุลมมันดันให้ธาตุดิน เคลื่อนที่ไปไม่รู้ว่ามีใครเคยเจอโมเมนต์ ที่รู้สึกว่าแขนขาตัวเองเป็นวัตถุแปลก ปลอมบ้างหรือเปล่ามันเป็นความรู้สึกที่ ประหลาดแต่เบาสบายอย่างบอกไม่ถูกท่าที่ 2 เวทนานานุปัสสนาดูความรู้สึกนี่คือท่าแก้ ทางโปรแกรมตอบสนองอัตโนมัติเวลาโดนต่อยใน matริกสมองจะสั่งว่าเจ็บและถ้านีโอเชื่อ ว่าเจ็บเขาจะตายจริงการดูเวทนาคือการเข้า ไปดูสัญญาณไฟฟ้าที่ส่งมาบอกว่าสุขหรือ ทุกข์เมื่อความเจ็บปวดเกิดขึ้นนักสู้ผู้ มีสติจะไม่ร้องโอว่าฉันเจ็บแต่จะมองเห็น ว่าอ๋อมีสัญญาณเตือนเตือนภัยสีแดงกำลัง กระพริบอยู่ที่ขาแค่รู้แล้วไม่เข้าไปเป็น ผู้เจ็บเหมือนเราเห็นไฟแจ้งเตือนบนหน้า ปัดรถยนต์เราไม่ได้เจ็บไปกับรถเราแค่รู้ ว่าเครื่องยนต์มีปัญหาท่าที่ 3 จิตตานุปัสสนา ดูสภาวะจิตอันนี้คือการอ่านค่าสเตตัสของ ตัวละครตอนนี้จิตมีราคะติดสถานะหลงใหลตอน นี้จิตมีโทสะติดสถานะคลั่ง หรือตอนนี้จิตฟุ้งซ่านติดสถานะสตันการฝึก กังฟูท่านี้คือการอ่านค่าให้ทันถ้าให้ผม ฟันธงเลยนะผมว่าคนส่วนใหญ่แพ้ภัยตัวเอง เพราะอ่านค่าสเตตัสไม่ทันเราปล่อยให้ สถานะโกรธมันครอบงำจนเราทำลายข้าวของพอ หายโกรธค่อยมานั่งเสียใจผมค่อนข้างมั่นใจ ว่าถ้าเราฝึกจิตตานุปัสสนาจนชำนาญเราจะ เห็นความโกรธวิ่งเข้ามาเหมือนเห็นระเบิด แล้วเราจะปัดทิ้งได้ทันก่อนที่มันจะ ระเบิดใส่หน้าเราท่าที่ 4 ธรรมานุปัสสนา คือการมองเห็นโค้ดmatรxทั้งระบบเห็นว่า นิวรณ์ 5 คือมันที่กำลังรบกวนระบบเห็นว่า ขันธ์ 5 คือโปรแกรมที่ทำงานแยกส่วนกัน เห็นว่าอริยสัจ 4 คือทางออกมันคือการมอง เห็นความสัมพันธ์ของทุกสรรพสิ่งว่าเป็น เพียงเหตุปัจจัยที่ไหลเลื่อนไปมาไม่มีตัว ละครลับไม่มีฮีโร่ มีแต่กระแสธรรมการดาวน์โหลดความรู้พวกนี้ เป็นเรื่องจำเป็นครับแต่Morฟiสเตือนนีโอ เสมอว่ามีความแตกต่างระหว่างการรู้ทาง เดินกับการเดินบนเส้นทางนั้น There is a difference between knowing the path and walking the path การที่คุณฟังผม พูดตอนนี้คุณเพิ่งจะรู้ทางเดินคุณเพิ่งจะ โหลดไฟล์satังfu.x Exess มาไว้ในเครื่อง แต่คุณยังไม่ได้ install และยังไม่ได้รัน โปรแกรมการจะรันโปรแกรมนี้คุณต้องกระโดด ลงไปในโดจหรือสนามฝึกซ้อมสนามฝึกซ้อมของ คุณไม่ใช่ห้องปูเสื่อทาตามิแบบในหนังแต่ คือชีวิตประจำวันของคุณครับเจ้านายที่ด่า คุณคือคู่ซ้อมหรือ sparing partner รถ ที่ติดยาวเหยียดคือด่านทดสอบความอดทน กิเลสความอยากกินชานมไข่มุกคือเอเจนฝึก หัดวันนี้ผมเตรียมข้อมูลเรื่องสติปัฏฐาน 4 เปรียบเทียบกับการฝึกต่อสู้ในmatทrixมา ประมาณนี้ครับแต่ผมเชื่อว่าผู้ฟังหลาย ท่านในที่นี้น่าจะมีเทคนิคส่วนตัวหรือ ทริกเด็ดในการเจริญสติที่แตกต่างกันออกไป บางคนถนัดดูกายบางคนถนัดดูจิตหรือบางคน ใช้วิธีการเคลื่อนไหวแบบหลวงพ่อเทียน เรื่องนี้ผมรู้ในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติส่วน ตัวครับแต่ผมมั่นใจว่าต้องมีคนรู้ลึกและ มีประสบการณ์พลิกแถงการปฏิบัติที่น่าสนใจ ซ่อนอยู่ในกลุ่มผู้ฟังแน่ถ้าคุณมีวิธี เรียกสติในสถานการณ์คับขันลองแชร์เป็น วิทยาทานหน่อยครับว่าคุณรับมือกับ agent smi ในที่ทำงานยังไงสิ่งสำคัญที่สุดใน การฝึกนี้คือความต่อเนื่องในหนังนีโอฝึก ต่อสู้กับมรอเฟียสจนหอบแหกล้มแล้วลุกล้ม แล้วลุกมอรเฟียสตะโกนใส่เขาว่าหยุดพยายาม ที่จะต่อยฉันแต่ต่อยฉันให้ได้ Stop trying to hit me but hit me คำ นี้ลึกซึ้งมากในทางปฏิบัติหยุดพยายามคือ หยุดใช้ความคิดหยุดใช้ตรรกะหยุดคิดว่าฉัน กำลังปฏิบัติธรรมฉันต้องเดินให้สวยฉัน ต้องนั่งให้ตัวตรงนั่นคือการปรุงแต่งแต่ ให้ต่อยเลยคือให้รู้สึกตัวเลยรู้สึกตัว ซื่อๆตรงๆเมื่อเท้ากระทบพื้นรู้เมื่อใจ คิดรู้เมื่อโกรธรู้การรู้แบบไม่ผ่าน กระบวนการคิดคือการเข้าถึงสภาวะเดิมแท้ ของจิตมันคือการ bypass ระบบปรุงแต่งของ matrix และเมื่อคุณทำแบบนี้บ่อยๆจิตของ คุณจะเริ่มมีความเร็วสูงขึ้นจากที่เคย เห็นกิเลสตอนที่มันเผาบ้านไปแล้วคุณจะ เริ่มเห็นตอนมันกำลังจุดไฟขีดแรกและถ้า คุณฝึกหนักพอวันหนึ่งคุณจะเห็นกระสุนหยุด กลางอากาศไม่ใช่กระสุนปืนแต่เป็นกระสุน แห่งความทุกข์ มันจะวิ่งเข้ามาหาคุณแต่มันจะไม่ถึงใจคุณ มันจะร่วงหล่นลงต่อหน้าต่อตาเพราะคุณรู้ ทันมันเสียแล้วนี่คืออำนาจของยาเม็ดสีแดง ที่คุณกินเข้าไปมันไม่ได้มอบอำนาจวิเศษ เหนือมนุษย์ให้คุณแต่มันคืนอำนาจในการ เป็นผู้รู้กลับมาสู่มือคุณถ้าให้คุณนึก ถึงคำ 1 คำที่จะเป็นคำปฏิญาณของคุณในการ เดินบนเส้นทางสายนี้คำที่จะเตือนสติคุณใน วันที่ท้อแท้ ในวันที่อยากกลับไปกินยาเม็ดสีน้ำเงิน สำหรับผมคือคำว่ากัดไม่ปล่อยเพราะกิเลส มันกัดเราไม่ปล่อยเราก็ต้องกัดมันไม่ ปล่อยเหมือนกันสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งก็ น่าสนใจนะครับว่าแต่ละคนจะนึกถึงคำว่า อะไรลองพิมพ์คำปฏิญาณของคุณไว้เป็นหลัก ฐานให้จักรวาลได้รับรู้ครับแต่การมีวิชา กังฟูที่เก่งกาจก็ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด นีโอเก่งกังฟูแล้วแต่เขาก็ยังวิ่งหนีเอเจ SM อยู่ในตอนแรกเขาตายและเขาฟื้นคืนชีพ ทำไมเขาต้องตายและอะไรในตัวเขาที่ตายไปใน แอคต่อไปเราจะไปเจาะลึกกระบวนการที่เจ็บ ปวดที่สุดแต่สวยงามที่สุดนั่นคือ The Eagle Death หรือการตายของตัวกูเราจะไป ดูฉากที่นีโอยืนประจันหน้ากับสมิด้วยมือ ข้างเดียวและเราจะไปถอดรหัสกระบวนการ วิปัสสนาญาณที่จะพาเราไปแฮกระบบถึงขั้น รากเหง้าเตรียมตัวให้พร้อมนะครับเพราะคู่ ต่อสู้คนต่อไปไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือตัว คุณเองเรากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่ระทึกใจ ที่สุดของการเดินทางครั้งนี้ครับหลังจาก ที่เราฝึกกังฟูจิตหรือเจริญสติปัฏฐาน 4 มาอย่างหนักหน่วงสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ แค่ความสงบไม่ใช่แค่ความสบายใจแต่มันคือ ปรากฏการณ์ที่ระบบปฏิบัติการของจักรวาล เริ่มรวนหรือที่เราเรียกว่าการแฮกระบบ อย่างสมบูรณ์คุณจำฉากบนดาดฟ้าตึกได้มั้ ครับฉากที่นีโอเริ่มเคลื่อนไหวด้วยความ เร็วที่เหนือมนุษย์เอเจนJจนสยิงกระสุนใส่ เขานีโอเอี้ยวตัวหลบกระสุนเหล่านั้นภาพ ทุกอย่างถูกทำให้ช้าลงหรือ bullet time ในสายตาของคนทั่วไปนีโอโชคดีที่หลบพ้นแต่ ในสายตาของผู้ปฏิบัติธรรมนี่คือสภาวะที่ เรียกว่าจิตมีกำลังสมาธิและสติถึงขีดสุด เมื่อสติมีความถี่สูงกว่าเหตุการณ์ตรง หน้าเวลาในความรู้สึกจะยืดขยายออกนี่ไม่ ใช่เรื่องแฟนตาซีนะครับแต่มันคือผลลัพธ์ ของการเกิดญาณหรืออินไซตคำว่าญาณในที่นี้ ไม่ใช่การมีหูทิพย์ตาทิพย์หรือเห็นเลข เด็ดแต่มันคือปัญญาญาณเครื่องมือแฮกที่ ทรงประสิทธิภาพที่สุดที่ใช้ตัดความเข้าใจ ผิดออกจากใจยานตัวแรกที่นีโอค้นพบและเป็น กุญแจดอกแรกที่ไขประตูออกจากคุกคือสิ่ง ที่เรียกว่านามรูปปริจเฉทยาน ชื่ออาจจะฟังดูขลังแต่ความหมายของมัน เรียบง่ายและสั่นสะเทือนโลกทัศมากครับมัน คือปัญญาที่แยกกายกับจิตออกจากกันอย่าง เด็ดขาดปกติเวลาเราเจ็บขาเราจะรู้สึกว่า ฉันเจ็บใช่ไหมครับขากับความเจ็บกับตัวฉัน มันรวมกันเป็นก้อนเดียวแยกไม่ออกแต่เมื่อ แฮกระบบได้แล้วนีโอจะเห็นว่าร่างกายกาย คือรูปเป็นแค่ฮาร์ดแวร์ที่ถูกยิงความเจ็บ คือนามเป็นแค่สัญญาณ error ที่ส่งเข้ามา และผู้รู้คือจิตเป็นแค่ผู้สังเกตการที่ ลอยอยู่เหนือเหตุการณ์นั้นมันขาดออกจาก กันครับเหมือนเราแกะเม็ดมะขามออกจากฝัก ร่างกายเจ็บแต่ใจไม่เจ็บนี่เป็น ประสบการณ์ตรงของผมเลยที่เคยเจอสมัยที่ เริ่มฝึกวิปัสสนาใหม่ๆผมเดินจงกรมอยู่ แล้วจู่ๆมันมีความรู้สึกเหมือนขาที่กำลัง ก้าวเดินมันไม่ใช่ใช่ขาของผมมันเหมือน ท่อนไม้หรือเหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกเชือกชัก ให้ขยับส่วนตัวผมหรือตัวผู้รู้มันถอยออก มานั่งดูอยู่บนหอคอยวินาทีนั้นความหนัก ความเมื่อยมันหายวับไปเลยครับเพราะมันไม่ มีคนแบกความเมื่อยนั้นไว้ไม่รู้ว่ามีใคร เคยเจอโมเมนต์ที่กายกับจิตแยกออกจากกัน ชัดๆแบบนี้บ้างหรือเปล่ามันเป็นความรู้ สึกที่เราหวิวเหมือนตัวเราลอยเคว้งอยู่ใน อวกาศเลยครับเมื่อแยกรูปกับนามได้แล้วการ แฮกจะลงลึกไปอีกขั้นคราวนี้เราจะเริ่ม เห็นกริหรือความรวนของระบบอย่างชัดเจนเรา จะเริ่มเห็นอนิจจังหรือความไม่เที่ยงใน หนังนีโอเห็นเอเจนขยับตัวเป็นภาพกระตุก ระุกเห็นผนังตึกที่มีรหัสสีเขียววิ่งวูบ วาบในทางธรรมเราจะเห็นว่าอารมณ์ความรู้ สึกหรือแม้แต่ความคิดของเรามันไม่ได้ต่อ เนื่องมันเกิดแล้วดับเกิดแล้วดับเกิดแล้ว ดับเหมือนหลอดไฟนีออนที่ใกล้จะเสียมัน กระพริบถี่ยิบสภาวะนี้ในคัมภีร์ วิสุทธิมรรคท่านจัดลำดับไว้เป็นขั้นบันได ที่เรียกว่าญานเหมือนเราเล่นเกมผ่านด่าน ไปทีละเลเวลเริ่มจากเห็นการเกิดดับหรือ อุทยัพพยาณ พอเห็นไปนานๆเข้าจิตเริ่มเบื่อครับเริ่ม เห็นว่าไอ้การเกิดดับนี่มันน่ากลัวพยะ ตูปัฏฐาน เหมือนเราเห็นบ้านที่ไฟไหม้ลุกลามตลอด เวลาเราจะเริ่มไม่อยากอยู่จิตจะเริ่มเข้า สู่สภาวะเบื่อหน่ายหรือนิพพิทาญาณตรงนี้ แหละครับที่น่าสนใจถ้าให้ผมฟันธงเลยนะผม ว่าคนส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติธรรมแล้วเลิกกลาง ครรภ์เพราะมาติดอยู่ตรงด่านความเบื่อนี่ แหละครับเรานึกว่าเราปฏิบัติผิดทำไมยิ่ง ฝึกยิ่งหดหู่ยิ่งฝึกยิ่งเห็นโลกไม่สวยงาม แต่จริงๆแล้วผมค่อนข้างมั่นใจว่าคุณมาถูก ทางเหรอครับอาการเบื่อโลกเบื่อสังสารวัฏ คือสัสัญญาณว่าคุณกำลังจะอัปเกรดไปสู่ เวอร์ชั่นใหม่แต่ก็นั่นแหละครับความรู้ สึกนี้มันทรมานจนหลายคนถอดใจกลับไปกินยา เม็ดสีน้ำเงินซะก่อนวันนี้ผมเตรียมข้อมูล เรื่องยาน 16 มาเล่าแบบสรุปย่อๆเพื่อให้ เห็นภาพ Road Map ของการแฮกระบบแต่ผม เชื่อว่าผู้ฟังหลายท่านในที่นี้น่าจะมี ประสบการณ์หรือมีความรู้เรื่องลำดับยาน ที่ละเอียดลึกซึ้งกว่านี้โดยเฉพาะยานช่วง กลางๆที่จิตมันดิ้นรนหาทางออกหมุน จิตตุกัมมยตาญาณ ที่เขาว่ากันว่าทุรนทุรายเหมือนปลาถูกทุบ หัวผมเล่าในมุมของคอนเซปตแต่ผมอยากรู้จัง ว่าถ้าในมุมของนักปฏิบัติที่ผ่านจุดนั้น มาแล้วคุณมีวิธีประคองใจยังไงไม่ให้สติ แตกไปซะก่อนเรื่องนี้ผมรู้ประมาณนี้ครับ แต่ผมมั่นใจว่าต้องมีคนรู้ลึกกว่าผมซ่อง ตัวอยู่ในกลุ่มผู้ฟังแน่ๆใครมีประสบการณ์ ช่วงวิปัสสนูปกิเลส หรือช่วงที่เห็นแสงสีเสียงจนหลงทางแชร์ กันได้นะครับจะเป็นประโยชน์มากเมื่อเรา ผ่านด่านความเบื่อหน่ายและด่านความกลัวมา ได้เราจะมาถึงฉาก clmax ที่นีโอต้องเผชิญ หน้ากับศัตรูที่ร้ายกาดที่สุดไม่ใช่เอเจน หลายร้อยคนแต่เป็นsmมิเพียงคนเดียวคน เดียวที่หน้าตาเหมือนกันหมดคนเดียวที่ เรียกเขาว่ามิสเerson ทำไม SM ถึงน่ากลัวเพราะSMิธไม่ใช่คนอื่น SM คืออัตตาหรืออีโก้ของนีโอเองในทาง จิตวิทยาสมิธคือภาพสะท้อนของด้านมืดหรือ shadow s ที่พยายามจะควบคุมทุกอย่างแต่ ในทางพุทธศาสตร์สมิธคือสักกายทิฏฐิความ เห็นผิดว่ามีตัวตนสังเกตมั้ครับสมมิธจะ โกรธมากเวลานีโอปฏิเสธที่จะเป็นมิสเตอ เพราะชื่อป้ายชื่อคือหัวโขนคือตัวตนสมมติ ที่ระบบมอบให้สมิธพยายามจะยัดเยียดความ เป็นตัวกูของกูใส่หัวนีโอแกมันก็แค่คน ธรรมดาแกต้องตายแกต้องอยู่ในระบบการต่อ สู้ระหว่างนีโอกับสมิจึงไม่ใช่การต่อสู้ ด้วยหมัดมวยแต่เป็นการต่อสู้ระหว่างปัญญา Widdom กับอวิชชา Ignorance ฉากที่นีโอสู้กับสมิธในสถานีรถไฟใต้ดิน ช่วงท้ายของภาคแรกนีโอโดนซ้อมน่วมแต่เขา ก็ลุกขึ้นมาใหม่สมิธถามด้วยความไม่เข้าใจ ว่าทำไมทำไมแกถึงยังลุกขึ้นมาสู้ ทำไมแกถึงยังดิ้นรนวินาทีนั้นคือกุญแจ สำคัญครับนีโอไม่ได้ลุกขึ้นมาเพราะอยาก ชนะแต่เขาลุกขึ้นมาเพราะเขารู้ความจริง ความจริงที่ว่าทั้งสมิธและทั้งนีโอไม่มี จริงนี่คือสภาวะ the ego death หรือการ ตายของตัวกูมันไม่ได้หมายความว่าเราต้อง ฆ่าตัวตายนะครับแต่มันคือการที่จิตยอมรับ ความจริงอันเจ็บปวดว่าสิ่งที่เราเฝ้าหวง แหนดูแลรักษาตกแต่งให้สวยงามที่เราเรียก ว่าตัวฉันมันเป็นแค่การรวมตัวของขันธ์ 5 รูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณเหมือนรถยนต์ ครับเราเรียกว่ารถแต่พอมองเข้าไปจริงๆมี แค่ล้อเครื่องยนต์พวงมาลัยตัวถังหาความ เป็นรถไม่เจอตัวเราก็เหมือนกันหาตัวเราใน ร่างกายก็ไม่เจอเจอแต่ตับไตไส้พุงหาตัว เราในความคิดก็ไม่เจอความคิดมาแล้วก็ไป แล้วตัวเราอยู่ที่ไหนคำตอบคือมันไม่มี ครับมันมีแต่กระบวนการมันมีแต่ process ไม่มี person พอพูดถึงเรื่องนี้ก็ผมก็อด สงสัยไม่ได้ว่าถ้าวันนึงคุณตื่นขึ้นมา แล้วความทรงจำทั้งหมดหายไปชื่อคุณหายไป สถานะทางสังคมหายไปคุณจะยังเป็นคุณอยู่มย หรือจริงๆแล้วความเป็นคุณเป็นแค่ไฟล์ข้อ มูลหรือเซฟเกมที่เรายึดถือไว้แน่นเพราะ กลัวว่าจะสูญสูญสลายเรื่องนี้มันก็น่าคิด นะครับว่าถ้าเราปล่อยวางไฟล์ข้อมูลนี้ได้ เราจะรู้สึกสูญเสียหรือเราจะรู้สึกเป็น อิสระกันแน่การทำลายศักกายทิฏฐิหรือความ ยึดถือในตัวตนคือด่านแรกของการเป็น อริยบุคคลหรือโสดาบัน ในหนังเปรียบเหมือนตอนที่นีโอกระโดดพุ่ง เข้าไปในร่างของสมิธแล้วระเบิดสมิธจาก ข้างในเขาไม่ได้หนีสมิธและเขาไม่ได้ทำลาย สมิธจากข้างนอกแต่เขารวมเข้าไปแล้วเห็น ความว่างเปล่าข้างในนั้นเมื่อเราเห็นว่า ตัวกูไม่มีจริงความเห็นแก่ตัวจะลดลงฮวบ ฮาบความโกรธจะลดลงเพราะไม่มีตัวกูให้ใคร มาด่าความกลัวตายจะลดลงเพราะไม่มีตัวกู ที่จะตายมีแต่ทาสแตกสลายไปตามธรรมชาติ ถ้าให้คุณนึกถึงคำหนึ่งคำที่อธิบายตัวตน หรืออัตตราของคุณที่คุณอยากจะระเบิดมัน ทิ้งมากที่สุดในตอนนี้บางคนอาจจะบอกว่า ศักดิ์ศรี บางคนอาจจะบอกว่าความดื้อสำหรับผมมันคือ คำว่าความสำคัญตัวหรือ self importance เพราะไอ้ตัวนี้แหละที่ชอบตะโกนเรียกร้อง ความสนใจแล้วทำให้เราเจ็บปวดเวลาใครไม่ เห็นค่าก็น่าสนใจนะครับว่าแต่ละคนจะนึก ถึงคำว่าอะไรลองพิมพ์คำที่เป็นสมิในใจคุณ ออกมาเพื่อลากมันออกมากลางแจ้งให้แสง สว่างแห่งปัญญาเผามันซะการตายของตัวกูไม่ ใช่เรื่องน่าเศร้าครับแต่เป็นเรื่องที่ น่าเฉลิมฉลองที่สุดเพราะเมื่อตัวกูตายผู้ รู้จะตื่นเมื่อนีโอหรือนิวmanนถือกำเนิด มิสเตอร์ก็ต้องจากไปตอนนี้นีโอได้กลาย เป็น the one แล้วแต่การเป็น the one ไม่ใช่จุดสุดครับมันเป็นเพียงแค่จุดเริ่ม ต้นของการเดินทางครั้งใหม่การเดินทางที่ ไม่มีผู้เดินทางมีแต่การเดินทางล้วนๆแล้ว ปลายทางของอุโมงค์นี้คืออะไรเมื่อเราหลุด ออกจากเมทริกแล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนมีอะไร ที่เหนือกว่าระบบนี้มยหรือความว่างเปล่า คือคำตอบสุดท้ายเตรียมตัวถอดปลั๊กเส้นสุด ท้ายเพราะสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าคือความ เงียบสงบที่คุณตามหามาทั้งชีวิต เราเดินทางมาถึงจุดสุดท้ายของการถอดรหัส แล้วครับจากเด็กหนุ่มผู้สับสนในโลกสมมุติ สู่การตื่นรู้ความจริงและการต่อสู้กับ อัตตาที่เจ็บปวดตอนนี้เรามายืนอยู่หน้า ประตูบานสุดท้ายประตูที่เมื่อเปิดออกไป แล้วจะไม่มีคำว่ากลับมาอีกต่อไปคุณจำภาพ สุดท้ายของไตรภาค The Matrix ได้ไหมครับ ภาพที่นีโอยอมสละร่างเนื้อของตัวเองแสง สว่างจ้าสีทองระเบิดออกมาจากร่างของเขา ทะลุทะลวงผ่านร่างของเอเจน SMH และสลาย ความมืดมิดทั้งหมดไปหรือถ้าย้อนกลับไปตอน จบภาคแรกภาพที่นีโอบินขึ้นสู่สู่ท้องฟ้า ทิ้งเมืองที่วุ่นวายไว้เบื้องล่างด้วย ความเร็วที่ระบบจับไม่ได้ในทางธรรมเรา เรียกสภาวะนี้ว่านิพพานแต่เดี๋ยวก่อนอย่า เพิ่งเข้าใจผิดนะครับว่านิพพานคือเมือง ไซออนที่ที่ทุกคนไปร้องรำทำเพลงหรือเป็น สวรรค์ชั้นสูงสุดที่มีนางฟ้ามาคอย ปรนนิบัติ นิพพานไม่ใช่สถานที่ครับนิพพานไม่ใช่ โลเคชัในแผนที่จักรวาลแต่นิพพานพานคือ สภาวะ มันคือสภาวะ system fail ของระบบ สังสารวัฏมันคือสภาวะที่โค้ดแห่งการปรุง แต่งหรือสังขารไม่สามารถรันได้อีกต่อไป ลองนึกภาพโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่รันวน loop มาเป็นล้านๆปีจู่ๆมีบรรทัดคำสั่งหนึ่งที่ เขียนว่า end process หรือ stop loop ทันทีที่คำสั่งนี้ทำงานความร้อนรนหยุดลง การประมวลผลหยุดลงเหลือแต่ความสงบเย็นที่ ไร้ขอบเขตคำว่านิพพานแปลตรงตัวว่าดับเย็น อะไรดับไม่ใช่ชีวิตดับไม่ใช่สูญพันธุ์แต่ คือไฟที่ดับลงไฟราคะความอยากไฟโทสะความ หลงในพระไตรปิฎกมีประโยคทองคำที่พระ พุทธเจ้าตรัสไว้ในคืนที่ตรัสรู้เรียกว่า พุทธอุทาน ท่านไม่ได้ตะโกนว่าแย่ฉันชนะแล้วแต่ท่าน พูดกับคู่ปรับเก่าแก่ของท่านนายช่างปลูก เรือนเราเห็นเจ้าแล้วเจ้าจะปลูกเรือนให้ เราได้ไม่อีกต่อไปนายช่างปลูกเรือนคือใคร คือตัณหาครับตัณหาคือนายช่างที่คอยก่อ สร้างภพชาติให้เราอยู่เรื่อยๆพอเรือนหลัง เก่าพังตายตัณหาก็รีบสร้างเรือนหลังใหม่ ให้ทันทีแต่เมื่อวิชชาหรือความรู้แจ้ง เกิดขึ้นนายช่างก็ตกงานโครงสร้างทั้งหมด พังทลายยอดเรือนถูกทำลายลงจิตเข้าสู่ สภาวะวิสังขารคือสภาวะที่ปราศจากการปรุง แต่งนี่เป็นประสบการณ์ตรงของผมเลยที่เคย เจอตอนที่ผมศึกษาเรื่องนิพพานใหม่ๆผม จินตนาการไม่ออกเลยว่าความไม่มีอะไรเลย มันจะมีความสุขได้ยังไงจนกระทั่งวันหนึ่ง ผมได้สัมผัสกับความหยุดของความคิดชั่วขณะ หนึ่งมันไม่ใช่ความว่างเปล่าเปล่าแบบน่า กลัวแต่มันเป็นความโล่งใจอย่างมหาศาล เหมือนเราแบกหินหนักๆมาทั้งชีวิตแล้วจู่ๆ ก็วางลงไม่รู้ว่ามีใครเคยเจอโมเมนต์ที่ ความอยากมันดับวูบลงไปแล้วเหลือแต่ความ เย็นสบายใจแบบที่ไม่ต้องการอะไรอีกบ้าง หรือเปล่านั่นแหละครับคือรสชาติเล็กๆของ นิพพานที่ชิมรางได้ในปัจจุบัน พอพูดถึงเรื่องนี้ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าวันหนึ่งระบบmatริกล่มสลายลงจริงๆถ้า เราทุกคนวางตัณหาลงพร้อมกันโลกใบนี้จะ หยุดหมุนมยเศรษฐกิจจะพังมยถ้าไม่มีใคร อยากได้ iPhone รุ่นใหม่ถ้าไม่มีใครอยาก รวยกว่าคนข้างบ้านระบบทุนนิยมที่ขับ เคลื่อนด้วยกิเลสคงจะพังคลืนลงมาแน่นอน เรื่องนี้มันก็มีหลายมุมมองจริงๆแต่ผมยัง หาคำตอบที่ชัดเจนให้ตัวเองไม่ได้เลยว่า ระหว่างโลกที่เจริญวัตถุด้วยไฟตัณหากับ โลกที่สงบสุขด้วยปัญญาเราจะเลือกอยู่แบบ ไหนถ้าต้องเลือกเพียงอย่างเดียวแต่ความ จริงที่โหดร้ายก็คือเราไม่ได้เป็นนีโอกัน ทุกคนอย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ลองก้มลง มองตัวเองสิครับเรายังคงนอนแช่อยู่ใน แคปซูลเมือกๆสายระยงระยางยังเสียบอยู่ที่ หลังคาคอของเราเต็มไปหมดสายตัณหาที่เสียบ เชื่อมกับป้ายโฆษณาของกลิ่นสายอุปทานที่ เสียบเชื่อมกับยอดไซชียลมี สายอวิชชาที่เสียบเชื่อมกับความเชื่อผิดๆ ว่าความสุขอยู่ข้างนอกเราทุกคนคือนีโอใน เวอร์ชั่นที่ยังไม่ตื่นเราคือ The One ที่ยังหลับไหลแต่ข่าวดีที่สุดที่ผมจะบอก คุณในวันนี้คือมีคนๆนึงที่ตื่นก่อนเรา ท่านคือ the first one ท่านคือแฮกเกอร์ คนแรกที่เจาะระบบสังสารวัฏได้สำเร็จเมื่อ 2600 ปีก่อนท่านไม่ได้บินหนีไปคนเดียว แต่ท่านทิ้งซอสcoคไว้ให้เราท่านทิ้งคู่ มือแหกคุกไว้ให้เราอย่างละเอียดทุกขั้น ตอนคู่มือนั้นเชื่อว่าพระไตรปิฎกมันไม่ ใช่หนังสือสวดมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่เอาไว้ วางบนหิ้งบูชาแต่มันคือแมนลที่บอกวิธีถอด สายไฟออกจากหลังคอทีละเส้นทีละเส้นถ้าให้ ผมฟันธงเลยนะผมว่าเราโชคดีมหาศาลที่เกิด มาแล้วเจอคู่มือนี้นะครับลองคิดดูสิครับ ว่ามีกี่จักรวาลมีกี่ภพภูมิที่ไม่มีโอกาส ได้รู้ความลับนี้เราเหมือนเจอสูตรโกงเกม วางอยู่ตรงหน้าแต่เราดันเอาไปรองขาตู้กับ ข้าวผมค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าเราเปิดใจ ศึกษาจริงๆเราจะพบว่าทางออกมันไม่ได้ไกล เกินเอื้อมเลยวันนี้ผมเตรียมข้อมูลมาเล่า ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพื่อความบันเทิงแต่ เพื่อจะถามคำถามเดียวกับคุณคำถามที่ มอรฟียสถามนีโอคำถามที่ดังกล้องอยู่ในใจ คุณตอนนี้คุณจะเลือกอะไรจะเลือกยาเม็ดสี น้ำเงินปิดพcสนี้แล้วกลับไปใช้ชีวิต เหมือนเดิมกลับไปโกรธคนที่ขับรถปาดหน้า กลับไปอิจฉาเพื่อนร่วมงานกลับไปวิ่งไล่ ตามเงาความสุขที่ไม่เคยเต็มหรือจะเลือกยา เม็ดสีแดงเริ่มต้นเส้นทางสายนักรบเริ่ม ต้นฝึกสติปัฏฐาน 4 เริ่มต้นมองทุกอย่าง เป็นทาสเป็นอนัตตาผมเล่าในมุมของคนเดิน ทางคนนึงที่เลือกยาเม็ดสีแดงแล้วและกำลัง เดินต่อแตะอยู่บนเส้นทางนี้แต่ผมอยากรู้ จังว่าถ้าในมุมของผู้ฟังที่ฟังมาถึงนาที นี้คุณมีความตั้งใจจะเริ่มเปลี่ยนแปลง อะไรเล็กๆน้อยๆในชีวิตบ้างมยอาจจะไม่ต้อง ถึงขั้นไปบวชแต่แค่ตั้งใจว่าจะรู้ทันความ โกรธวันละครั้งเรื่องนี้ผมรู้ประมาณนี้ ครับแต่ผมมั่นใจว่าพลังของความตั้งใจหมู่ Collective Intention ของพวกเรามันมี พลังมหาศาลที่จะสั่นสะเทือนระบบได้ถ้าใคร มีเป้าหมายในการปฏิบัติธรรมปีนี้ลองพิมพ์ บอกกันหน่อยครับเพื่อเป็นพยานให้แก่กัน และกันถ้าให้คุณนึกถึงคำ 1 คำที่จะเป็น ของขวัญให้กับจิตวิญญาณของคุณเองก่อนจะจบ คลิปนี้สำหรับผมคือคำว่าตื่นตื่นจากความ ฝันตื่นจากความหลงตื่นมารับรู้ความจริง ตรงหน้าก็น่าสนใจนะครับว่าแต่ละคนจะนึก ถึงคำว่าอะไรลองเลือกคำนั้นแล้วกระซิบเบา ๆกับตัวเองดูครับสุดท้ายนี้ผมขอสรุปรหัส ลับของจักรวาล Universal Code ที่เราถอด รหัสกันมาตลอด 3 ชม.ครึ่งไว้ใน 3 บรรทัด สั้นๆจำ 3 บรรทัดนี้ไว้ให้ดีเพราะมันคือ อาวุธเดียวที่คุณจะใช้ต่อกอนกับ agent Smith ในใจคุณอนิจจังทุกอย่างคือข้อมูล ที่เกิดดับไม่มีความต่อเนื่องจริงทุกขัง การเข้าไปยึดถือข้อมูลเหล่านั้นคือ error คือความทุกข์อนัตตาไม่มี User ไม่มี แอดมินไม่มีตัวกูมีแต่กระบวนการทำงานของ ทาสหนังสือที่ผมอยากจะแนะนำให้คุณไปหามา อ่านเพื่อเป็นแผนที่ฉบับละเอียดเล่มเล่ม แรกอภิธรรมสังฆหะสำหรับคนที่ชอบความเป๊ะ อยากเห็นโครงสร้างจิตแบบโปรแกรมเมอร์เล่ม ที่ 2 วิสุทธินักสำหรับคนที่อยากได้คู่ มือปฏิบัติแบบsteป by step หรือถ้าใคร ชอบภาษาที่เข้าใจง่ายลองหาหนังสือของครู บาอาจารย์สายวัดป่าที่ท่านถอดรหัสออกมา เป็นภาษาใจการเดินทางของเราจบลงตรงนี้แต่ การเดินทางของคุณเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ประตูเปิดออกแล้วกุญแจอยู่ในมือคุณที่ เหลือขึ้นอยู่กับคุณแล้วครับว่าจะเดิน ก้าวเท้าออกไปหรือจะยืนอยู่ที่เดิม I know you're out there. I can feel you now. ผมรู้ว่าคุณอยู่ที่นั่นผม สัมผัสถึงคุณได้วันนี้ขอลาไปก่อนแล้วพบ กันใหม่สวัสดี